ถ้าเราพูดถึงธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารในตลาดหุ้นไทย
ต้องยอมรับว่าปี 2566 ไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไรนักของธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร 
เพราะ 2 บริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นไทยที่เกี่ยวข้องกับหมูและไก่อย่าง CPF กับ BTG ต่างก็ขาดทุนไปไม่น้อย
CPF ผลประกอบการ 9 เดือน ขาดทุนสุทธิไปแล้ว 5.32 พันล้านบาท
BTG ผลประกอบการ 9 เดือน ขาดทุนสุทธิไปแล้ว 741 ล้านบาท
แต่มีอยู่บริษัท ที่สามารถฝ่ามรสุมและบริษัทยังมีกำไรอยู่ได้ นั่นก็คือ GFPT หรือ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน)

GFPT ทำธุรกิจการเกษตรครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ปู่ย่าพันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ธุรกิจชำแหละและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ โดยผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่มบริษัท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ เนื้อไก่สด อาหารแปรรูปจากเนื้อไก่ และ อาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน รวมถึง อาหารสัตว์บก อาหารสัตว์น้ำ
โครงสร้างรายได้ของ GFPT มาจาก ...
1. ธุรกิจอาหาร สัดส่วนรายได้ 54%
2. ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สัดส่วนรายได้ 29%
3. ธุรกิจอาหารสัตว์ สัดส่วนรายได้ 17%

ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 17.13 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.19 พันล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 14.98 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.35 พันล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 14.09 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 209 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 18.56 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 2.04 พันล้านบาท
ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 14.43 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 966 ล้านบาท

จุดที่น่าสนใจ คือ ทำไม GFPT ยังคงมีผลประกอบการที่กำไร ? 
ผลประกอบการไตรมาส 3 GFPT ประกาศกำไร 319 ล้านบาท ลดลง -53% YoY และ -9% QoQ 
ซึ่งออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ สาเหตุเพราะ
ยอดขายในธุรกิจอาหารลดลง ปริมาณการส่งออกลดลง ราคาชิ้นส่วนไก่ลดลง ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมทุน รวมถึงธุรกิจอาหารสัตวก็ขายได้น้อยลงเช่นเดียวกัน
แต่สิ่งที่ทำให้ผลประกอบการของ GFPT ยังมีกำไร คือ
1. ธุรกิจฟาร์มยังเติบโตแข็งแกร่ง
2. ผลการดำเนินงานของ GFN
GFN คือ บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด 
ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่สดแช่แข็ง เนื้อไก่แปรรูป และผลิตภัณฑ์อาหารจากเนื้อไก่

และอีกสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือ ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มลดลง
ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงลดลง อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มสูงขึ้น
ซึ่งถ้าใครได้อ่านรายงานของ CPF และ BTG จะพบว่ามีแนวโน้มไปในทางเดียวกัน คือ ต้นทุนการเลี้ยงวัตว์มีแนวโน้มลดลงจากอาหารสัตว์ที่มีราคาถูกลง

• ทำไมหุ้นอินเดีย ถึงน่าสนใจ ? 
• สรุป Sea Change ของ Howard Marks แบบโพสเดียวจบ
• TCAP หุ้นต่ำบุค ที่นักลงทุนไทยชอบมองข้าม
• 3 ข้อสังเกตหุ้นไทย อาจจะถูกเกินไปในเชิง Valuation

โดยสรุป คือ ผลประกอบการของ GFPT ไม่ได้ออกมาดีมาก
และมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันกับอุตสาหกรรม คือ "ค่อนไปในทางลง"
แต่ด้วยความสามารถของบริษัท และการจัดการที่ดี ก็ยังทำให้บริษัทมีกำไรต่อไปได้ ...

อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะมีคำถามว่า แล้ว GFPT จะยังรักษาสภาพกำไรต่อไปได้อีกไหม ใน 4Q66
คำตอบ คือ มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวดีขึ้น

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ มองว่า GFPT จะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในจีนและญี่ปุ่น 
และต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรของธุรกิจร่วมทุน (JVs) มีแนวโน้มดีขึ้นด้วย ทำให้ภาพรวมดีกว่าไตรมาส 3 ปี 2566

สอดคล้องกับบทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า ที่มองไปในทิศทางเดียวกันว่า ปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ราคาไก่เริ่มดีขึ้น พร้อมกับต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ลดลง จะทำให้ผลประกอบการ 4Q66 ของ GFPT ฟื้นตัว
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังแนะนำผู้ลงทุนติดตาม "ราคาหมู" ควบคู่กันไปด้วย
เพราะราคาหมู จะสอดคล้องกับราคาไก่
ถ้าราคาหมู มีแนวโน้มดีขึ้น ราคาไก่ก็จะปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกัน ...

GFPT คือ ตัวอย่างบริษัทที่ยังรักษากำไรอยู่ได้ 
ในสภาวะที่อุตสาหกรรมไม่เอื้ออำนวย 
แต่เราต้องไม่ลืมว่าสินค้าโภคภัณฑ์ เวลาฟื้นตัว จะฟื้นตัวได้แรงและเร็ว
ถ้าราคาไก่กลับมาได้ เชื่อว่า GFPT จะเป็นหุ้นกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารตัวเลือกแรกๆในใจของนักลงทุนอย่างแน่นอนครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ

สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน  : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ผลประกอบการสำคัญ : บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) 

นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน)