"เอ็มเค เรสโตรองต์" เจ้าของร้านอาหารประเภทสุกี้ที่ครองใจผู้บริโภคมาทุกยุคทุกสมัย
พยายามต่อยอดไปลุยอาหารประเภทอื่นมากมายหลังจากการเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย
เช่น การเปิดตัวอาหารสะดวกทาน "บิซซี่ บ็อก" , ร้านข้าวมันไก่ทองคำ , ฮากาตะ ราเมน
หรือแม้แต่การเข้าซื้อกิจการแหลมเจริญ ซีฟู้ด ที่เคยเป็น Talk of The Town ในกลุ่มนักลงทุนที่มองว่าน่าจะเป็น New S-Curved รอบใหม่ของ M
ไม่เพียงแค่นั้น ทาง M ยังพยายามรุกธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วย เช่น
เอ็มเค สุกี้ ประเทศญี่ปุ่น 25 สาขา เวียดนาม 5 สาขา ลาว 3 สาขา และร้านมิยาซากิ 1 สาขา และร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด ที่มาเลเซีย 3 สาขา
แต่ดูเหมือนว่าการเติบโตของ M จะไม่ได้เป็นไปอย่างที่นักลงทุนคาดหวัง ...
ถ้าเราดูจากราคาหุ้นจะพบว่าปรับตัวลดลงไปแล้วกว่า -25% ภายใน 6 เดือน
หรือถ้าเราดูไปไกลกว่านั้น จะพบว่า -39% เข้าไปแล้วใน 12 เดือนที่ผ่านมา
คำถาม คือ เกิดอะไรขึ้นกับ M ?
คำตอบสั้นๆ ที่พอจะบอกได้คือ ผลประกอบการของ M เติบโตช้ากว่าที่นักลงทุนคาดหวังเอาไว้ก่อนหน้านั้น
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 11.36 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 15.93 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.43 พันล้านบาท
ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 16.97 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.68 พันล้านบาท
ปี 2567 ไตรมาส 1 บริษัททำรายได้ 4 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 346 ล้านบาท
เรียกได้ว่ามีการฟื้นตัว แต่ช้ากว่าที่นักลงทุนคาดหวัง

ราคาหุ้น M ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวไปแล้วกว่า -25%
https://www.tradingview.com/symbols/SET-M/
ถ้าอ่านจากบทวิเคราะห์ น่าจะมาจาก 2 ประเด็นด้วยกัน คือ
1. ธุรกิจที่ท้าทาย การแข่งขันที่ดุเดือด
เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธุรกิจร้านอาหาร มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด อีกทั้งต้นทุนวัตถุดิบก็มีราคาสูงขึ้น
ทำให้ผลประกอบการของ M ไม่ได้เติบโตอย่างที่ตลาดคาดหวังไว้
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของการแข่งขันอย่างดุเดือดในธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะธุรกิจ "สุกี้" ที่เป็นรายได้หลักของ M
2. ผลประกอบการล่าสุด มีแนวโน้ม "แผ่วลง"
ผลประกอบการ 1Q67 มีกำไรสุทธิ 347 ล้านบาท ลดลงมาก -32% QoQ แต่เพิ่มขึ้น +6.5% YoY
ไม่ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้ตลาดมากนัก อีกทั้งบริษัทยังต้องเจอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ SG&A
อีกประเด็นที่น่าจับตา คือ ยอดขายต่อสาขา (SSSG) ลดลง -6% YoY สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจร้านอาหารแข่งขันสูง
และบริษัทยังบอกอีกด้วยว่าธุรกิจ Delivery ของ M มีรายได้ที่ลดลง
ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนอยากจะเห็น คือ การเปลี่ยนกลยุทธ์แบบใหม่ หรือทำอะไรใหม่ๆที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร
เพราะการหวังพึ่งพารายได้แต่ธุรกิจสุกี้อย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอแล้ว
ถ้าเราไปดูรายได้จากธุรกิจของ M จะพบว่า ไตรมาส 1 ปี 2567 การพึ่งพารายได้จากร้านอาหาร "เอ็มเค" มีสัดส่วนรายได้มากถึง 72%
ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ เช่น ยาโยอิ แหลมเจริญ ฯ รวมกันมีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 28% เท่านั้น ซึ่งยังห่างจากธุรกิจสุกี้ "เอ็มเค" อยู่มากพอสมควร
- สรุปสาเหตุหุ้น M การฟื้นตัวที่ช้า ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงเกือบครึ่ง ?
- KEX กำลังเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ เจ้าของร้านเคอรี่ง่ายๆ เริ่มต้น 3,900 บาท
- สรุปเกิดอะไรขึ้นกับหุ้น Disney ร่วง 10% ภายในวันเดียว
แต่ดูเหมือนว่า M จะรู้จุดอ่อนของตัวเองดี ...
และบริษัทก็พยายามปรับเปลี่ยนตัวเองมากขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ทาง M จะจัดแสดงสินค้าและบริการครั้งแรกในงาน Thaifex-Anuga Asia 2024 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัทที่จะนำเสนอความหลากหลายของธุรกิจในเครือ ที่ต่อยอดมาจากความแข็งแกร่งของการเป็นผู้นำธุรกิจเชนร้านอาหารที่มากที่สุดในประเทศไทย
โดยหลัก M จะเปิดตัวธุรกิจในเครือ 6 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
1. ธุรกิจ MK Food Service
สินค้าและบริการด้านอาหารแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าประเภทธุรกิจ เช่น องค์กรขนาดใหญ่ สายการบิน โรงพยาบาล โรงเรียน
2. ธุรกิจน้ำจิ้มสุกี้
การเปิดตัว "น้ำจิ้มสุกี้ MK แบบขวด" หาซื้อได้ที่ร้าน MK ทุกสาขาและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย
โดยเน้นกลุ่มลูกค้าทานที่บ้าน การส่งออกไปยังต่างประเทศ พร้อมกับเจาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร
3. ธุรกิจบริการ OEM/ODM
ภายใต้บริษัท IFS รองรับบริการออกแบบและผลิตครบวงจร สำหรับสินค้าหมวด เกี๊ยว, ชุบแป้งทอด, ติ่มซำ, บะหมี่ และอื่น ๆ ตามความต้องการของลูกค้า ผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล
4. International Franchise
ร้านสุกี้ MK Restaurants แบรนด์สุกี้อันดับ 1 ของไทย และ ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด แบรนด์อาหารไทยซีฟู้ด ที่พร้อมเปิดรับคู่ค้า ร่วมผนึกกำลังขยายสาขา สร้างความเติบโตในต่างประเทศ นำพาอาหารไทยไปสู่เวทีโลก
5. M-Senko Logistic
ปี 2561 M ได้ร่วมกันกับ Senko Group Holding ของญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท M-Senko Logistic
ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบ One Stop Services for all Business รองรับสินค้าทั้งกลุ่มอาหารและไม่ใช่อาหารหรือ Non – Food นำความเชี่ยวชาญในการขนส่งแบบ cold-chain logistics บริการลูกค้าทั่วประเทศไทย
6. ธุรกิจสินค้าเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ MK Wellness
M ได้จัดตั้งบริษัท มาร์ค วัน อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท เป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ "MK Wellness" และลุยสินค้ารีเทลในเครือเอ็มเค กรุ๊ป พัฒนาสินค้าด้วยแนวคิดนวัตกรรม พร้อมช่วยส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกรไทย เป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายในช่องทางค้าปลีกของสินค้าในเครือ ที่พร้อมกระจายสินค้าทั่วประเทศ รวมถึงเปิดตลาดต่างประเทศ สานวิชั่นบริษัทในการนำนวัตกรรมมาสรรสร้างผลิตภัณฑ์ ควบคู่กับการรับผิดชอบต่อสังคม
พูดง่ายๆ คือ นักลงทุนจะเริ่มเห็นแล้วว่า M ไม่ได้พึ่งรายได้จาก "เอ็มเค" เพียงอย่างเดียว
แต่บริษัทยังพยายามสร้างนวัตกรรม หรือหาช่องทางใหม่ๆเพื่อเพิ่มการเติบโตของบริษัทได้ในอนาคต
สิ่งที่นักลงทุนพอจะทำได้ ตอนนี้คือติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด
อนึ่ง M เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2556
ที่ราคา 49 บาท (ราคาพาร์ 1 บาท)
ปัจจุบันราคา 31.5 บาท เรียกได้ว่า "ต่ำจอง" เป็นที่เรียบร้อย
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า
ผลประกอบการสำคัญ : บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)