การเปิดตัวผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนักสำหรับ KEX หรือ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ที่รายงานผลประกอบการขาดทุนหนักถึง 1.18 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 50%YoY และเพิ่มขึ้น 3.1% QoQ
ซึ่งสาเหตุการขาดทุนมาจากการปรับปรุงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (One-off Adjustment) ของการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี
และการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ถาวร
พูดง่ายๆ คือ ถ้าตัดขาดทุนพิเศษออกไป KEX จะรายงานขาดทุน 968 ล้านบาท ซึ่งก็ยังถือว่าสูงอยู่ดี
ในแง่ของรายได้ KEX รายงานอยู่ที่ 2.55 พันล้านบาท ลดลง 18.3% YoY และเพิ่มขึ้น 1.6% QoQ
สาเหตุรายได้ลดลง มาจากการจัดส่งพัสดุลดลง ในช่วงโลว์ซีซัน ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และเคอรี่ ให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการรายย่อยมากขึ้น
ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง และอัตราหนี้สินครัวเรือนต่อจีดีพี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
ผลประกอบการที่ผ่านมา
ไตรมาส 1/2566 รายได้ 3,130 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 790 ล้านบาท
ไตรมาส 2/2566 รายได้ 2,923 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1,047 ล้านบาท
ไตรมาส 3/2566 รายได้ 2,896 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 889 ล้านบาท
ไตรมาส 4/2566 รายได้ 2,519 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1,152 ล้านบาท
ไตรมาส 1/2567 รายได้ 2,559 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1,188 ล้านบาท
เรียกได้ว่าขาดทุนอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ
และลดต่ำกว่า การเข้ามาซื้อกิจการของ S.F.Holding ก่อนหน้านั้นที่ประกาศคำเสนอซื้อที่ราคา 5.50 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม KEX พยายามอย่างมากสำหรับการเน้นตลาดผู้ใช้บริการระดับกลางถึงสูง เพิ่มยอดขายกลุ่มผู้ใช้บริการรายย่อย ลูกค้าองค์กร และผู้ส่งสินค้าระหว่างประเทศ พยายามลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ไตรมาสแรกปีนี้ สัดส่วนรายได้จากผู้ใช้บริการ C2C เพิ่มขึ้นจาก 41% เป็น 46% จากกลยุทธ์เน้นกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการที่ให้ผลตอบแทนสูง และหาลูกค้าใหม่ชดเชยปริมาณลูกค้าจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซลดลง จาก 47% เหลือ 40%
พร้อมทั้งเน้นกระจายธุรกิจไปสู่แหล่งรายได้ใหม่ เพื่อเพิ่มอัตราทำกำไร รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายต้นทุนคงที่และต้นทุนแปรผัน จากค่าใช้จ่ายการเช่าพื้นที่และค่าใช้จ่ายพนักงาน
นอกจากนี้จะปรับปรุงโครงสร้างเครือข่ายการดำเนินงาน การลงทุนติดตั้งระบบคัดแยกอัตโนมัติและระบบดิจิทัล การอัพเกรดเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในปีนี้

ราคาหุ้น KEX ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทน -12%
https://www.tradingview.com/symbols/SET-KEX/
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี แสดงความคิดเห็นว่าผลประกอบการของ KEX แย่กว่าที่ฝ่ายวิจัยมองเอาไว้
และเชื่อว่า KEX น่าจะยังขาดทุนไปอีกไตรมาสละ 800-900 ล้านบาท เป็นปัจจัยลบต่อผลประกอบการ และเป็นการบ่งชี้ว่าตลาดส่งพัสดุยังคงร้อนแรงต่อไป
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันลดลงมากกว่าการเข้ามาซื้อกิจการของ S.F.Holding ก่อนหน้านั้นที่ประกาศคำเสนอซื้อที่ราคา 5.50 บาทต่อหุ้น
ทำให้ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวไม่ลดลงแรงไปมากกว่านี้
- สรุปผลประกอบการ TRUE บริษัทขาดทุน แต่ทำไมราคาหุ้นถึงยังบวกได้ ?
- ผลประกอบการของ SCC กำลังดูดีขึ้นเรื่อยๆ ปิโตรเคมีมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
- BTS ผ่านช่วงที่แย่ที่สุดไปแล้ว นักลงทุนจะเห็นงบฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ของ KEX
โดยเปิดรับสมัครเจ้าของร้านเคอรี่ พาร์ทเนอร์ ทั่วประเทศ ชวนคนไทยมาเป็นเจ้าของร้านส่งพัสดุ
ชูจุดเด่นเปิดให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของร้านได้ง่ายๆ ด้วยแพ็คเกจการลงทุนที่มีให้เลือกหลากหลาย ใช้เงินลงทุนน้อย พร้อมรับผลตอบแทนสูงสุดถึง 20%*
(*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของร้านเคอรี่ พาร์ทเนอร์ นั้น เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ได้จัดทำแพ็คเกจการลงทุนให้เลือกอย่างหลากหลาย 4 รูปแบบด้วยกัน คือ
1. เจ้าของกิจการอยากหารายได้เสริมจ่ายเพียง 3,900 บาท
แพ็คเกจเริ่มต้น เหมาะสำหรับคนที่มีร้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว และอยากต่อยอดรายได้เสริมง่ายๆ ควบคู่กันไป โดยแพ็คเกจนี้จะได้รับชุดป้ายประชาสัมพันธ์แบนเนอร์ด้านนอกร้าน, ป้าย J-Flag ส่งเคอรี่ที่นี่, ผ้าปูโต๊ะ และป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส พร้อมเปิดร้านได้ทันที
2. ร้านเล็กลงทุนเบาๆ 8,900 บาท
เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่และอยากเริ่มเปิดร้านเล็กๆ ที่ดูแลง่ายโดยแพ็คเกจนี้จะได้รับ ป้ายไวนิล, สื่อภายในร้าน และป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส พร้อมด้วยของแถมต่างๆ ทั้ง Seal Bag, เทป OPP, ที่ตัดเทป OPP และตลับเมตร
3. ชุดพื้นฐานพร้อมเปิดร้าน 39,900 บาท
แพ็คเกจร้านไซซ์กลางสุดคุ้มค่า เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ 10-35 ตารางเมตร และตั้งอยู่ทำเลโดดเด่นใจกลางเมือง โดยแพ็คเกจนี้จะมีอุปกรณ์ให้ครบ ได้รับทั้งอุปกรณ์ภายในร้าน อุปกรณ์ป้ายประชาสัมพันธ์ อาทิ ป้ายไวนิล สื่อภายในร้าน ป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส พร้อมของแถมแบบจัดเต็ม ทั้ง Seal Bag, กระดาษพิมพ์ใบเสร็จ, กระดาษพิมพ์ฉลาก, เทป OPP, ที่ตัดเทป และตลับเมตร
4. ร้านใหญ่รองรับลูกค้าชุดใหญ่ 79,900 บาท
แพ็คเกจสำหรับการเปิดร้านไซส์ใหญ่ขนาดพื้นที่ 25-50 ตารางเมตร ที่พร้อมรองรับกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมอุปกรณ์ชุดใหญ่จัดเต็มทั้ง ป้ายไวนิล, สื่อภายในร้าน, ป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส, อุปกรณ์ไอที และอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ อาทิ เคาน์เตอร์ โต๊ะแพ็ก พร้อมของแถมสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กล่องพัสดุทุกขนาด, กล่องผลไม้ทุกขนาด, Seal Bag ทุกขนาด, เทป OPP, ที่ตัดเทป OPP, พร้อมของแถมอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 20 รายการ
ก็ถือเป็นอีกโมเดลใหม่ของ Kerry ที่นักลงทุนยังต้องติดตามต่อไปว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน
แต่สิ่งสำคัญ คือ ราคาหุ้น ณ ตอนนี้ ต่ำกว่าการเข้ามาของ S.F.Holding ก่อนหน้านั้นที่ประกาศคำเสนอซื้อที่ราคา 5.50 บาทต่อหุ้น
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)