เวลาที่นักลงทุนจะได้ยินหุ้นใหม่ๆเข้า IPO ในตลาดหุ้นไทย
ส่วนใหญ่ก็จะเน้นหนักไปที่ธุรกิจ IT Solution หรือเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร อุตสาหกรรมที่เราน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
มีไม่บ่อยนักที่จะได้ยินว่าเป็นอุตสาหกรรมทำเหมืองเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทย ยิ่งเป็นธุรกิจ "เหมืองหิน" ด้วยแล้ว ก็อาจจะเป็นเรื่องไกลตัว

แต่รู้หรือไม่ว่าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีหุ้น "เหมือนหิน" รายแรกเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเป็นที่เรียบร้อย
โดยบริษัทมีชื่อว่า บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STX 
STX ทำธุรกิจเหมืองหินและแร่ รายได้หลักมาจากการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมชนิดหินแกรนิตและชนิดหินปูน 
นอกจากนี้ยังผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แร่โดโลไมต์ รวมถึงการให้บริการด้านขนส่งและควบคุมสต็อกสินค้าให้แก่ลูกค้าที่ไซด์งานอย่างครบวงจร 
ปัจจุบันบริษัทมีเหมืองหินรวม 2 แห่ง คือ 
- เหมืองหินหนองข่า จ.ชลบุรี อายุสัมปทานถึงปี 2575 
- เหมืองหินจอมบึง จ.ราชบุรี ที่มีอายุสัมปทานถึงปี 2585

เดิมที่ STX เป็นบริษัททำเหมืองหินสัญชาติออสเตรเลีย ที่ต้องการขายกิจการในประเทศ
เลยชักชวนคุณจเรรัฐ ปิงคลาศัย เข้ามาร่วมลงทุน ส่งผลให้คุณจเรรัฐก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเหมืองหินเป็นครั้งแรก และที่สำคัญคือ คุณจเรรัฐไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทำหิน
เริ่มแรก STX ทำเหมืองหิน และส่งหินให้กับกลุ่มปูนซีเมนต์ในไทยทั้งหมดที่รับซื้อประมาณ 50% ของกำลังการผลิต 
ซึ่งการมีดีลกับกลุ่มปูนใหญ่ ทำให้รายได้ของ STX ค่อนข้างมั่นคงและแน่นอน 
ส่งผลให้ STX เริ่มต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้น เช่น การเข้าสู่ธุรกิจ "เหมืองแร่" 
โดยคุณจเรรัฐ กล่าวว่า หินก่อสร้างตันละ 200 บาท ในขณะที่ราคาแร่จะอยู่ที่ 800 บาท และมีความต้องการซื้อทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ "แร่โดโลไมต์"
ทั้งนี้แร่โดโลไมต์จะใช้เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก อุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว อุตสาหกรรมผลิตกระจก รวมถึงภาคการเกษตรที่ใช้ในการปรับสภาพความเป็นกรดด่างของดิน และปรับสภาพน้ำในการเลี้ยงสัตว์ บ่อกุ้ง

ผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 360.75 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 18.5 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 279.55 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 21.5 ล้านบาท
ปี 2566 บริษัมีรายได้ 371.28 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 38.1 ล้านบาท
โดยบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิราวๆ 11% 
ถ้าไปดูโครงสร้างรายได้ของบริษัท จะพบว่ามาจาก 3 ส่วนหลักๆด้วยกัน คือ 
บริษัทมีสัดส่วนการขายหินปู คิดเป็น 55% 
ขายหินแกรนิค คิดเป็น 33% และแร่โดโลไมต์ สัดส่วน 12%

• BTS ผ่านช่วงที่แย่ที่สุดไปแล้ว นักลงทุนจะเห็นงบฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ
• การซื้อหุ้นคืน มีข้อดีมากแค่ไหน บริษัทจดทะเบียนไทยซื้อหุ้นคืนมากกว่าปกติ
• รู้จัก SPREME ว่าที่หุ้นน้องใหม่ ผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ

คุณจเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานบริหาร STX มีจุดประสงค์หลังระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไว้ว่า
ใช้เพื่อพัฒนาเหมืองหินแห่งใหม่ เนื่องจากการพัฒนาเหมืองใหม่ใช้เวลา 3-5 ปี ใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท
สาเหตุเป็นเพราะว่า เหมืองหินหนองข่า จ.ชลบุรี จะครบกำหนดสัมปทานในปี 2575 ทำให้บริษัทต้องหาเหมืองใหม่ๆ ไม่ให้บริษัทต้องขาดช่วงในการผลิต

โดยแผนธุรกิจระยะยาว คือในช่วง 3-5 ปี บริษัทก็ยังคงอยู่ใน Core Business  
บริษัทจะขยายเหมืองไปเรื่อย ๆ ตามพื้นที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลจะไป เช่น อีอีซี เซาเทิร์น ซีบอร์ด โครงการถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และแลนด์บริดจ์ รวมไปถึงโครงการสร้างสนามบินและรถไฟรางคู่ต่างๆ

จุดที่น่าสนใจของ STX ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม คือ เป็นธุรกิจวัตถุดิบต้นน้ำที่มีคู่แข่งไม่มาก
โดยบริษัทมีเหมืองอยุ่ 2 แห่ง คือ  เหมืองหินหนองข่า จ.ชลบุรี และ เหมืองหินจอมบึง จ.ราชบุรี  และกำลังมองหาเหมืองใหม่ๆเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ คือ หินคือวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้แล้วหมดไป ไม่ถูกดิสรัปเพราะต่างเหมืองต่างก็ทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ยากมากที่จะมีการขายหินข้ามจังหวัด 
สาเหตุเป็นเพราะว่าต้นทุนค่าขนส่งจะสูงขึ้นตามระยะทาง จึงทำให้ดูเหมือนว่าไม่มีคู่แข่งนั้นเอง

สุดท้าย ถ้าเราไปดูราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 2.3 บาทต่อหุ้น 
ในขณะที่มูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 2.73 บาทต่อหุ้น ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ราคาหุ้นซื้อขายกันต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี โดย P/BV ของหุ้นอยู่ที่ 0.84 เท่า
ในขณะที่ราคา IPO ครั้งแรกของหุ้นอยู่ที่ 3 บาทต่อหุ้น

------------------------------------------------------------------------------
Reference
สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน)

นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน)

ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

ทันหุ้น

สำนักข่าวอินโฟเควสท์