เวลาเราพูดถึง "ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร"
เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ มักจะมีมุมมองไปในทางเดียวกันว่า เข้าใจยาก และไม่น่าสนใจเท่าไรนัก
แต่ถ้าเราศึกษาดีๆ จะพบว่าธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร มีการเติบโตที่ดีถ้าเราอยู่ในกลุ่มที่มีฐานลูกค้าชัดเจน
โดยเฉพาะ SPREME หรือ บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) ก็ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตจากผลประกอบการที่ผ่านมา
และมีศักยภาพสูงที่จะเติบโตได้ในอนาคต
SPREME มีกลุ่มธุรกิจของ SPREME จะแบ่งออกเป็นประเภทธุรกิจได้ 3 ประเภท ด้วยกันคือ
1. ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งระบบสารสรเทศครบวงจร ระบบเครือข่าย Network ระบบ LAN ระบบ Data Center
2. ธุรกิจให้บริการ ซ่อมแซมอุปกรณ์ต่อพ่วง หรือ ธุรกิจ MA
3. ธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์
หรือให้พูดง่ายๆ คือ บริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (System Integrator) ทั้ง Hardware และ Software รวมถึง ให้บริการดูแลบำรุงรักษา ซ่อมแซม และให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
การเป็นผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ จัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (SI : System Integrator) ทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และโปรแกรมซอฟต์แวร์ (Software) รวมถึงให้บริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงหลังการขาย และการให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง สามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพให้ลูกค้ากลุ่มภาครัฐและเอกชนมีความมั่นใจในศักยภาพของบริษัทฯ
ทำให้ SPREME เป็นหุ้นเทคโนโลยีฯ ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีโอกาสเติบโตสูง เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ส่งผลให้สามารถจัดโซลูชั่นที่ดีและส่งมอบงานที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้าได้
อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ รวมถึงทำ M&A เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างการเติบโตของรายได้ให้เพิ่มขึ้นในอนาคต
ถ้าเราไปดูผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 871.19 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 110.53 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 1.02 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 99.24 ล้านบาท
ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 1.25 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 156.59 ล้านบาท
โดยบริษัทมีรายได้มาจาก 3 ภาคส่วนธุรกิจหลักด้วยกัน คือ
1. รายได้จากธุรกิจจำหน่ายและติดตั้ง คิดเป็นสัดส่วน 87%
2. รายได้จากธุรกิจ MA คิดเป็นสัดส่วน 8%
3. รายได้จากธุรกิจให้เช่า คิดเป็นสัดส่วน 5%
นายภาณุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPREME กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโตไม่น้อยกว่า 15% ยังไม่รวมการซื้อกิจการ (M&A) ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งมีโอกาสจะเติบโตได้เพิ่มขึ้น
บริษัทเตรียมยื่นประมูลงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการศึกษามูลค่าราว 1,000 ล้านบาท ช่วงกลางพ.ค.นี้ คาดว่าจะได้งาน80% ของมูลค่างาน ที่จะมาเติม Backlog ที่ปัจจุบันมี 400 กว่าล้านบาท ส่วนใหญ่รับรู้ภายในปีนี้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าภาครัฐ 30% กลุ่มลูกค้าภาคเอกชน 70%
หลังเข้าตลาด บริษัทจะรับงานโครงการขนาดใหญ่ขึ้น คาดสัดส่วนรายได้ จะเป็น 50: 50
- สรุป 7 ประเด็นน่าสนใจ CHAO เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี
- รู้จัก BKGI ธุรกิจไบโอเทคโนโลยี ว่าที่ Sunrise Industry ของตลาดหุ้นไทย
- MBK เจ้าของห้างมาบุญครอง - พาราไดซ์พาร์ค ที่จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเข้ามาซื้อขายของ "สยามพิวรรธน์"
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ SPREME กล่าวว่า
บริษัทจะขาย IPO ที่ราคา 2.60 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2567 และเข้าซื้อขายในวันที่ 2 พฤษภาคม
ซึ่งการการกำหนดราคาไอพีโอที่ระดับ 2.60 บาทต่อหุ้น จะมีค่า P/E อยู่ราวๆ 12.29 เท่า
ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
SPREME ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้น IPO น้องใหม่ที่นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิดครับ ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
ข้อมูล Filling : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์