ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเงียบเหงาและปรับตัวลงมาแรง
นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะมองว่า ตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยหุ้นไม่น่าสนใจ การเติบโตลดน้อยลง เศรษฐกิจไม่เติบโต
ในทางตรงกันข้าม นักลงทุนบางกลุ่มอาจจะมองว่า ยังมีโอกาสในตลาดหุ้นไทย
แต่เลือกหุ้นไม่ถูก ไม่รู้จะซื้อหุ้นตัวไหน ในจังหวะแบบนี้ดี ?
คำแนะนำที่ดีที่สุด คือ มองหาสินค้า บริการที่อยู่รอบๆตัวเรา หรือเกี่ยวข้องกับเราในชีวิตประจำวัน
เราเรียกกลยุทธ์นี้ว่า Bottom-up Approach
กลยุทธ์ Bottom-up Approach คือ การเลือกลงทุนในหุ้น โดยเริ่มต้นจากการสังเกตสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา
เราเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการประเภทไหนมากที่สุด หรือสังเกตว่าผลิตภัณฑ์หรือการบริการไหนกำลังได้รับความนิยม
แล้วนำมาค้นหาต่อในอินเตอร์เน็ต เช่น อัตราส่วนทางการเงินสำคัญ งบดุล การปันผลของบริษัท
หรือแม้แต่การค้นหาบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ก็จะช่วยให้ความชัดเจนของตัวบริษัทได้ดียิ่งขึ้น
ครั้งหนึ่ง นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสูงมากอย่าง ปีเตอร์ ลินซ์ ก็ยังแนะนำคนรุ่นใหม่ว่า "เริ่มต้นลงทุนจากสิ่งที่เรารู้จัก สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา"
เพราะเราต้องไม่ลืมว่า การซื้อหุ้น คือการซื้อส่วนหนึ่งของบริษัท
ถ้าบริษัทดี หุ้นก็จะดีในระยะยาว
ถ้าบริษัทไม่ดี หุ้นก็จะแย่ตามไปด้วย
ดังนั้น เริ่มต้นจากการมองสิ่งรอบๆตัว แล้วดูว่ามีสินค้าหรือบริการอะไรที่อยู่รอบๆตัวเราน่าสนใจและได้รับความนิยม
เราก็หยิบตัวหุ้นไปศึกษาและทำการบ้านต่อ ว่ามีจุดไหนน่าสนใจเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ลินซ์ ยังยกตัวอย่างอีกด้วยว่า เด็กลงทุนได้ดีกว่าผู้ใหญ่ สาเหตุเป็นเพราะว่า เด็กคิดไม่ซับซ้อนเท่าผู้ใหญ่ เช่น เด็กมักจะคิดว่า
- เขาชอบรองเท้าไนกี้ ก็ซื้อหุ้นไนกี้
- เขาชอบกินแมคโดนัลด์ เขาก็ซื้อหุ้นแมคโดนัลด์
ซึ่งหุ้นเหล่านั้น เป็นหุ้นที่ดีในระยะยาวอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ยังมีกลยุทธ์อีกประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่าการมองภาพใหญ่ หรือ Top down Approach
โดยเริ่มจากการที่มองว่าอุตสาหกรรมใดมีความน่าสนใจในการลงทุนบ้าง
เช่น เรามองว่าช่วงที่ผ่านมาในเทศกาลสงกรานต์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจ
เราอาจจะเริ่มหันไปมองหุ้นกลุ่มโรงแรม สนามบิน ร้านอาหาร หรือแม้แต่กลุ่มธุรกิจสายการบิน
- Zombie Company คืออะไร ? ปัญหาของบริษัทจดทะเบียนที่มือใหม่ต้องรู้
- "วอลุ่ม" ตัวเลขที่คนไม่สนใจ แต่บอกแนวโน้มได้เป็นอย่างดี
- EV/EBITDA คืออะไร ?
ณ เวลานี้ อาจจะไม่มีเหตุผลให้ลงทุนในหุ้นไทยมากนัก ทำให้กลยุทธ์ Top down Approach
ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ยากกว่ากลยุทธ์ Bottom-up Approach
การมองดูจากสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา อาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่า ที่จะใช้เลือกหุ้นในสถานการณ์แบบนี้ครับ ...