#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น EGCO สาเหตุหลักที่ผลประกอบการขาดทุน

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
6,337 views

เช้านี้ราคาหุ้น EGCO ลดลงไปเกือบ -10% 
เรียกได้ว่าทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบหลายเดือน ก็อาจจะไม่ผิดเท่าไรนัก
โดยสาเหตุที่ราคาหุ้นลงมาแรงแบบนี้ อาจจะเป็นเรื่องของผลประกอบการที่ออกมา "น่าผิดหวัง"

 

บริษัทรายงานผลประกอบการปี 2566 อยู่ที่ ขาดทุน 8.38 พันล้านบาท
จากเดิมที่มีกำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 2.68 พันล้านบาท
หรือถ้ามองเฉพาะไตรมาส 4 อย่างเดียว จะขาดทุนหนักถึง 1.42 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่กำไรในไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ จากกำไรดีๆ แล้วพลิกกลับมาขาดทุนหนัก นั่นเอง

 

ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น EGCO อะไรคือสาเหตุหลักที่ทำให้ผลประกอบการขาดทุน
คำตอบ คือ การตั้งบันทึกด้อยค่าจากโครงการ Yunlin
โครงการ Yunlin ของ EGCO คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ประเทศไต้หวัน 
โดยมีกำไรการผลิตไฟฟ้าอยู่ราวๆ 160 MW
ในรายงานคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ อธิบายว่า EGCO มีการตั้งบันทึกด้อยค่าจากโครงการ Yunlin ราวๆ 1.48 หมื่นล้านบาท
และการตั้งด้อยค่าจากโครงการอื่นๆอีก รวมแล้วอยู่ที่ 1.67 หมื่นล้านบาท

 

 

รายได้ของ EGCO อยู่ที่ 4.96 หมื่นล้านบาท ในปี 2566
มากกว่าปี 2565 ที่ทำได้ราวๆ 4.07 หมื่นล้านบาท
และถ้าเราดูในส่วนของ EBITDA คือไม่นับเรื่องของค่าเสื่อมราคา จะพบว่า 
EGCO มีกำไรอยู่ราวๆ 1.18 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าทำได้ดีเลย
แต่จากการตั้งด้อยค่าของบางโครงการ ทำให้ภาพรวมของ EGCO พลิกกลับมาขาดทุนได้อย่างไม่คาดคิด

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการครั้งนี้แย่กว่าที่คาดกันเอาไว้
แต่ถ้ามองไปในอนาคต คือ ไตรมาส 1 ปี 2567 ผลประกอบการของ EGCO มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จาก 4 ประเด็นด้วยกัน คือ 
1. รายได้สูงขึ้นจากโครงการ Compass โรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐ และเป็นการรับรู้รายได้แบบเต็มปี
2. การปิดซ่อมบำรุงโรงงานลดลง ทำให้รับรู้รายได้มากขึ้น
3. รายได้จากการลงทุนในโครงการ XPCL สูงขึ้น 
4. ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน ลดลง จากการปรับโครงสร้างภายใน

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ EGCO จะขาดทุนหนักอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
แต่บริษัทก็ยังมีการประกาศจ่ายเงินปันผล
โดย จ่ายเป็นเงิน 3.25 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 13 มีนาคม 2567 และจะจ่ายปันผลในวันที่ 25 เมษายน 2567
ซึ่งถ้าเทียบจากราคาที่ 120 บาท เท่ากับว่าจะมี Dividend Yield อยู่ราวๆ 2.7%

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี

คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทันหุ้น


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง