#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

ปัญหาของ Bitcoin ETF กำลังทำให้สินทรัพย์เสี่ยงถุกเทขายกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
577 views

เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็น Bitcoin ETF ว่า...
ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ประกาศการอนุมัติให้ Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ถูกกฎหมายอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย พร้อมซื้อขายทันที 11 รายการ  ได้แก่ ARK 21Shares, Invesco Galaxy, VanEck, WisdomTree, Fidelity, Valkyrie, BlackRock, Grayscale, Bitwise, Hashdex และ Franklin Templeton

เราอาจจะสงสัยว่า ETF คืออะไร ?
ETF หรือ Exchange Traded Fund คือ กองทุนรวมดัชนีที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนีต่างๆ หรือสินค้าอ้างอิงต่างๆ
ความพิเศษของ ETF คือ เป็นกองทุนรวมดัชนีที่สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เหมือนหุ้น โดยได้ราคาซื้อขายแบบ Real time
ดังนั้น Bitcoin ETF คือ กองทุนที่อ้างอิงกับราคาของ Bitcoin โดยตรง และสามารถซื้อขายได้แบบ Real Time อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนโดยเข้าไปซื้อ Bitcoin เข้ามาถือครองจริง 
ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถถือครอง Bitcoin โดยไม่ต้องถือครองโดยตรง 
ซึ่งจะแตกต่างจากกองทุน Futures bitcoin ETF อื่นๆ ในตลาดที่มักจะอิงกับฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นการถือสัญญาเดิมพันกับราคาในอนาคตของ Bitcoin เท่านั้น

 

โดย Bitcoin ETF จะช่วยลดต้นทุนของนักลงทุนด้านค่าธรรมเนียมที่จะต่ำกว่าการซื้อ Bitcoin โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ 
นอกจากนี้ยังลดภาระด้านจัดการจัดเก็บถือครอง Bitcoin ผ่านวอลเล็ตจำนวนมาก
ซึ่งนักลงทุนยังสามารถซื้อสินทรัพย์และติดตามราคาของ Bitcoin ผ่านกลไกเดียวกับการซื้อกองทุนหุ้นและพันธบัตร

ทั้งนี้ การประกาศเปิดการซื้อขาย Bitcoin ETF อาจจะกำลังทำให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขาย
โดยสื่ออย่าง coingape.com รายงานว่า นักวิเคราะห์วอลสตรีท มองว่านี่อาจทำให้เม็ดเงินไหลเข้าบิทคอยน์มากกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ 
และส่งผลให้ราคา BTC พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 
ยิ่งไปกว่านั้น จะเป็นการกระตุ้นเม็ดเงินไหลเข้าตลาดคริปโตอีกเป็นจำนวนมหาศาล 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักลงทุนสถาบันที่กำลังมองหาวิธีการลงทุนในบิทคอยน์ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ 
เนื่องจากนักลงทุนไม่จำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง ซึ่งนี่อาจดึงดูดเม็ดเงินจากตลาดหุ้น ตราสารหนี้ รวมถึงทองคำ เข้ามาสู่ตลาดคริปโตได้อีกด้วย

 

รายงานจาก Bloomberg Intelligence ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบัน เช่น BlackRock, Fidelity และ Invesco 
และอาจทำให้มีเงินลงทุนใหม่เข้ามามูลค่าสูงขึ้น 1 แสนล้านดอลลาร์เลยทีเดียว 
รายงานของ Galaxy Digital  คาดกันว่าอาจจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้า BTC ราวๆ 7.05 หมื่นล้านดอลลาร์
ซึ่งเป็นผลกระทบที่สำคัญต่อตลาดของบิทคอยน์และราคาที่อาจพุ่งสูงขึ้น

 

สำหรับในประเทศไทย ดูเหมือนว่านักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญกับ Bitcoin ETF ไม่แพ้กัน
และนักลงทุนรายย่อยหลายคนก็อยากจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาซื้อด้วยเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความฝันของการเข้าถือครอง Bitcoin ของนักลงทุนรายย่อยชาวไทยอาจจะไม่เกิดขึ้นจริงๆ
สาเหตุเป็นเพราะว่า ทาง กลต. มีประกาศว่า นักลงทุนที่สามารถลงทุนซื้อขาย Spot Bitcoin ETF ได้ 
จะต้องเป็นนักลงทุนประเภทสถาบันการเงิน หรือนักลงทุนที่มีสินทรัพย์ประเภทเงินลงทุนในตราสาร หรืออนุพันธ์ หรือเงินฝาก 
รวมกันตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป (ไม่รวมที่อยู่พักอาศัยประจำ) เท่านั้น
ก็ถือเป็นประเด็นที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน ...

 

ทั้งนี้ Bitcoin ETF คือก้าวสำคัญของโลกการเงินที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ไม่แน่ว่า Bitcoin อาจจะเป็นสินทรัพย์ที่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด
และในอนาคต เราอาจจะเห็น Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีไว้เพื่อเก็บออมและรักษามูลค่าเพิ่มในระยะยาวก็เป็นไปได้

ทั้งนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
https://coingape.com/bitcoin-etf-launch-could-see-70-billion-combined-inflows-from-stocks-bonds-and-gold/

https://www.thairath.co.th/money/tech_innovation/digital_assets/2754327

https://www.finnomena.com/getwealthsoon/what-is-etf/


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง