เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า SPRC ประกาศปิดดีลกิจการ "คาลเท็กซ์" จาก Chevron Asia Pacific Holdings Limited ได้เป็นเจ้าของปั๊มประมาณ 427 แห่งทั่วประเทศ
โดยดีลนี้ สรุปออกเป็น 3 ข้อด้วยกัน คือ
1. เข้าซื้อหุ้น 100% ของ เชฟรอน ลูบริแคนท์ (ประเทศไทย) จำกัด
2. เข้าซื้อหุ้น 9.9% ในบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (THAPPLINE)
3. เข้าซื้อหุ้น 49% ในบริษัทจัดตั้งใหม่ 2 บริษัท เพื่อประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
ซึ่งดีลนี้ จะมีมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 5.6 พันล้านบาท
และจะทำให้ SPRC รับรู้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้อยู่ราวๆ 400-650 ล้านบาทต่อปี
โดยจะรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2567 เป็นต้นไป
แต่เดิม SPRC ทำธุรกิจโรงกลั่นน้ามันของบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ซึ่งไม่มีสถานีบริการน้ำมันเป็นของตัวเอง
การเข้าซื้อปั๊มคาลเท็กซ์ ครั้งนี้ จะเป็นการช่วยปลดล๊อคการจัดจำหน่าย
และช่วยให้ SPRC รุกธุรกิจปลายน้ำมากขึ้น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส ได้วิเคราะห์ดีลนี้ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ
1. การเข้าซื้อ เชฟรอน ลูบริแคนท์ (ประเทศไทย) จำกัด
เชฟรอน ลูบริแคนท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ "Caltex" (คาลเท็กซ์)
ปัจจุบันมีสถานีบริการกว่า 427 แห่งทั่วประเทศ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5% ของการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลีมค้าปลีกน้ำมันในประเทศไทย
และยังถือหุ้นอีก 2.5% ใน BAFS อีกด้วย
2. การเข้าซื้อ THAPPLINE
บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด หรือ THAPPLINE ประกอบธุรกิจบริการขนส่งน้ำมันทางท่อ 3 เส้นทางหลัก รวม 360 กิโลบเมตร
3. การจัดตั้งบริษัทใหม่ 2 บริษัท
ซึ่ง SPRC ได้เข้าซื้อหุ้น 49% เพื่อซื้อที่ดิน 6 รายการ รวม 19 แปลง ซึ่งเป็นที่ตั้งคลังน้ำมัน 2 แห่ง สถานีบริการน้ำมัน 4 แห่ง
พูดง่ายๆ คือ ดีลนี้จะทำให้ SPRC เข้าสู่ธุรกิจปลายน้ำของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้อย่างต่อเนื่อง และครบวงจร
- SISB ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน
- ANI เกาะเทรนด์ E-Commerce : เติบโตพุ่งทะลุ 116 ล้านล้านบาท
- กรณีศึกษา SABINA ชุดชั้นในสตรี ที่ยอดขายเติบโตมากจากแพลตฟอร์มออนไลน์
ฝ่ายวิจัย มองว่า มูลค่าดีล 5.6 พันล้าน จะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน 100%
โดยแบ่งเป็น 3.2 พันล้านบาท เป็นวงเงินกู้ยืมระยะสั้น
และอีก 2.3 พันล้านบาท เป็นเงินกู้ระยะยาว โดยดอกเบี้ยน่าจะอยู่ราวๆ 3.6% ต่อปี และ 3.8% ต่อปี
ส่งผลให้หนี้สินของ SPRC สูงขึ้น แล้วค่อยๆลดลงตามการทยอยชำระหนี้ของบริษัท (อยู่ในระดับไม่น่าเป็นห่วง)
ประเด็น คือ ดีลนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ SPRC ได้มากน้อยแค่ไหน
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า จะช่วยเพิ่มมูลค่าประมาณ 0.7 บาทต่อหุ้น ในปี 2567
และทำให้กำไรปกติของ SPRC เพิ่มขึ้น 10.3% และ 17.7% ในปี 2567 และปี 2568
พูดง่ายๆ คือ ตามการวิเคราะห์ของฝ่ายวิจัย กำไรปกติของ SPRC จะเพิ่มขึ้น 4.3 พันล้านบาทในปี 2567
และเพิ่มขึ้น 3.3 พันล้านบาท ในปี 2568 นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ SPRC ใน 4Q66 อาจจะอ่อนตัวลงบ้าง จากค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลง การใช้น้ำมันที่ลดลง และการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นบางส่วน
ดังนั้น ในแง่ของราคาหุ้นน่าจะตอบรับประเด็นเชิงบวกไปบ้างแล้ว
นักลงทุนอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้นในการลงทุน
เพราะเราต้องไม่ลืมว่า การเข้าซื้อปั๊มคาลเท็กซ์ คือผลเชิงบวกในระยะยาว
แต่ภาพระยะสั้น ผลประกอบการอาจจะอ่อนตัวลงได้บ้าง
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส