#ลงทุนแนวเทคนิคอล
#แนวคิดด้านการลงทุน
#มือใหม่เริ่มลงทุน

Pyramid Trading ซื้อขายหุ้นด้วยเทคนิค จำกัดความเสี่ยง ลดขายหมู ไม่ติดดอย

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,634 views

เราเคยสังเกตการซื้อขายหุ้นของเราไหม ว่าเป็นแบบไหน ?
ก. ซื้อไม้เดียวจบ หุ้นขึ้นก็ขายทิ้ง
ข. ทยอยซื้อเป็นไม้ๆ ถ้าหุ้นขึ้นก็ซื้อเพิ่ม ถ้าผิดทางก็ตัดขาดทุน
แน่นอนว่า นักลงทุนกว่า 80% จะเลือกข้อ ก. สาเหตุเป็นเพราะว่าถ้าพวกเขาเลือกซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งแล้ว แสดงว่าทำการบ้านมาดีแล้วว่าหุ้นจะต้องขึ้น 
ทำไมเราถึงไม่ซื้อให้จบภายในครั้งเดียว แล้วก็เก็บกำไรก้อนใหญ่กลับบ้านละ ?

 

แต่รู้หรือไม่ว่า นักกลยุทธ์หรือนักเก็งกำไรที่มีแผนการเข้าออกชัดเจน 
จะมีกลยุทธ์การซื้อหุ้นที่เรียกว่า Pyramid Trading
กล่าวคือ แทนที่จะซื้อขายเป็นเงินทั้งก้อนภายในครั้งเดียว แต่เราจะทยอยซื้อออกเป็น 3-4 ไม้
ให้นึกภาพ Pyramid ที่มีทรงสามเหลี่ยมฐานกว้างและยอดเล็กลงเรื่อยๆ โดยเวลาซื้อเราจะซื้อจากฐานก่อน
พูดง่ายๆ คอื ซื้อไม้แรกให้เยอะที่สุด และถ้าหุ้นเริ่มมีกำไร ค่อยซื้อไม้ที่สองและไม้ต่อๆไปลดลงเรื่อยๆ

เช่น ถ้าเราจะซื้อ 10,000 หุ้น
ไม้แรกเราอาจจะซื้อ 5,000 หุ้น ถ้าซื้อแล้วหุ้นลง ถึงจุด Stop loss เราก็ตัดขาดทุน
แต่ถ้าหุ้นขึ้นต่อ แสดงว่ามาถูกทาง เราก็ซื้อเพิ่มอีก 3,000 หุ้น (รวม 8,000 หุ้น) 
ถ้าซื้อแล้วหุ้นลงต่ำกว่าจุด Stop loss เราก็ขายหุ้นออกมา (กำไรไม้แรก แต่ขาดทุนไม้ที่สอง)

 

ถ้าเรามี 8,000 หุ้น แล้วหุ้นขึ้นต่อ เราอาจจะซื้อเพิ่มอีก 1,500 หุ้น (รวม 9,500 หุ้น) 
ถ้าซื้อแล้วหุ้นลง เราก็ขายออกมา กำไรไม้แรก + ไม้สอง แต่ขาดทุนไม้ที่สาม

ถ้าเราซื้อแล้วหุ้นขึ้นต่อ เราซื้อเพิ่มอีก 500 หุ้น (ครบ 10,000 หุ้น)
เราจะหยุดซื้อแล้วหาจังหวะในการ Take Profit ทั้ง 10,000 หุ้น
ในทางกลับกัน ถ้าซื้อแล้วลง เราก็ขายออกมา กำไรไม้แรก + ไม้ที่สอง + ไม้ที่สาม แต่ขาดทุนไม้ที่สี่ซึ่งเป็นสัดส่วนน้อยที่สุด 
ในภาพรวม เราก็ยังถือว่าได้กำไรมากกว่าขาดทุน

 

ถือเป็นกลยุทธ์จำกัดความเสี่ยงไม่ให้เราต้องขาดทุนหนักๆ (เพราะทยอยซื้อ)
และไม่ติดดอย เพราะมีจุด Stop Loss ที่ชัดเจน
ในภาพรวม คือ ถ้าเราผิดทาง เราจะขาดทุนจากไม้แรกเท่านั้น ทำให้เสียเงินน้อย 
มองอีกมุมก็คือเป็นการซื้อแบบ "ทดสอบตลาด" และเว้นพื้นที่สำหรับข้อผิดพลาด
แต่ถ้าซื้อแล้วกำไรเลย และแนวโน้มเป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ 
เราจะค่อยซื้อไม้ต่อๆไป จนครบจำนวนที่ต้องการ นี่จึงเป็นวิธีการเพิ่มพูนกำไรให้มากขึ้นเรื่อยๆ

ในทางกลับกันเวลาขายเราก็ไม่จำเป็นต้องรีบขายทั้งหมด แต่ให้ทำกำไรก่อนบางส่วน ถ้าหุ้นลงจริงก็ค่อยขายที่เหลือแต่ถ้าหุ้นดีดกลับมาขึ้นต่อ เราก็ยังมีส่วนที่เหลือที่สามารถทำกำไรและเล่นตามเทรนด์ได้ต่อไป

 

 

สรุปคือ ไม้แรกจะเป็นการซื้อไม้ใหญ่ที่สุด เช่น เราจะซื้อ 6,000 หุ้น
เราอาจจะแบ่งเป็นไม้แรก 3000 หุ้น ไม้ที่สอง 2000 หุ้น และไม้ที่สาม 1000 หุ้น เป็นต้น
หุ้นขึ้นก็ทยอยซื้อไปเรื่อยๆ 
หุ้นลงก็ทยอยขาย (หรืออาจจะขายครั้งเดียวให้หมด ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของเรา ...)

อย่างไรก็ตาม Pyramid Trading ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือ
1. กำไรที่ได้ จะน้อยกว่าการซื้อไม้ใหญ่ๆเพียงครั้งเดียว
แต่สิ่งที่เราจะได้ คือ Risk/Reward Ratio อยู่ในจังหวะที่รับได้

2. กลยุทธ์ Pyramid Trading เหมาะกับแนวโน้มตลาดที่ชัดเจน (Trend Following)
ถ้าตลาด Sideway การใช้กลยุทธ์นี้อาจจะทำให้เราต้อง Stop loss บ่อยครั้ง

วิธี Pyramid Trading ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเก็งกำไรอย่างเดียว
นักลงทุนระยะยาวก็สามารถนำวิธีนี้ไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน
ซื้อไม้แรกเยอะก่อนเพื่อจับตาดูผลประกอบการบริษัทไปก่อน
ถ้าซื้อแล้วผลประกอบการเติบโต ค่อยทยอยซื้อเพิ่ม
แต่ถ้าบริษัทเริ่มมีผลประกอบการลดลง เราอาจจะเริ่มคิดในการทยอยขาย
เราก็สามารถนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ได้เหมือนกันครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
https://en.wikipedia.org/wiki/Pyramid_trading

https://www.centralcharts.com/en/gm/1-learn/5-trading/14-strategy/289-definition-pyramid-trading

https://www.sarut-homesite.net/blog-28-pyramid-strategy/

https://www.finnomena.com/mod_mangmaoclub/pyramid-trading-strategy/

https://knowledge.bualuang.co.th/knowledge-base/

https://dailypriceaction.com/blog/pyramid-trading-strategy-double-your-profit-potential/
 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง