ช่วงนี้นักลงทุนมักจะได้ยินเรื่องธุรกิจ Naked Short Selling กำลังทำให้หุ้นไทยปั่นป่วนไปหมด
เราเคยสงสัยไหมว่า Naked Short Selling (หรือเรียกสั้นๆว่า Naked Short) คืออะไร และส่งผลกระทบต่อหุ้นไทยอย่างที่แหล่งข่าวบอกไว้จริงไหม ?
Naked Short Selling คือการขายหุ้นออกไปโดยที่นักลงทุนรายนั้นไม่ได้มีหุ้นอยู่จริงๆ และคาดหวังว่าจะซื้อหุ้นตัวนั้นคืน เมื่อราคาหุ้นนั้นปรับตัวลง
สิ่งที่เราต้องรู้ คือ นักลงทุนทั่วไปไม่สามารถทำ Naked Short Selling ได้ เพราะระบบการเทรดจะ Lock เอาไว้ไม่ให้เราขาย ถ้าเราไม่มีหุ้น
แต่นักลงทุนที่จะทำแบบนั้นได้ ต้องเป็นนักลงทุนเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้มีการ Lock ไว้ เพราะใช้ Custodian บุคคลอื่นภายนอกโบรค และส่งมอบหุ้นภายหลังการขายเป็นระยะเวลา 2 วัน (T+2)
จุดที่ทำให้ Naked Short Selling ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ
1. Naked Short Selling จะทำโดยกลุ่มนักลงทุนที่มีขนาดพอร์ตใหญ่ ทำให้การขายหุ้นอย่างรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นได้
2. การขายช๊อตในไทย จะสามารถทำได้ที่ราคาล่าสุดเท่านั้น (เรียกว่า Zero Plus Tick Rule) ไม่สามารถโยนขายได้หลายๆช่องและต่ำกว่าราคาล่าสุดได้
ซึ่ง Naked Short Selling จะไม่ผ่านการตรวจสอบตรงนี้ สามารถโยนขายหุ้นที่ราคาต่ำกว่า Last ได้ ทำให้หุ้นถูกเทขาย และติดลบมากกว่าปกติ
ทั้งนี้ เรื่องของ Naked Short Selling ก็ถูกจำกัดด้วยอะไรหลายๆอย่าง เช่น
1. ขายมากเท่าไร ก็ต้องซื้อคืนมากเท่านั้น
ทำให้คนใช้กลยุทธ์ Naked Short Selling ต้องวางแผนดีๆ และมั่นใจว่าทำไปแล้วหุ้นจะต้องลงอย่างหนัก เพื่อที่จะได้ซื้อคืนในราคาต่ำๆ
2. จากข้อที่ 1 เป้าหมายของหุ้นที่ถูก Naked Short Selling จึงเป็นหุ้นขนาดเล็ก มีกระแสข่าวลบ
ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ พราะหุ้นขนาดใหญ่ ลงมากๆจะมีกลุ่มนักลงทุนเข้ามาซื้อ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Sentiment มันไม่ดี หุ้นใหญ่ก็จะถูกเทขายตามไปด้วย
3. Naked Short Selling เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนต่างชาตินิยมใช้ แต่สำหรับประเทศไทยเป็นเรื่องที่ขัดกับเกณฑ์และไม่อนุญาตให้ทำ ทางตลาดหลักทรัพย์เองก็มีมาตรการที่เข้มงวดในการดูแลเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตาม ทางตลาดหลักทรัพย์ออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่พบการทำ Short Sell ที่ผิดกฎหมาย
หรือ Naked Short Selling ในทุกช่องทางที่ตรวจสอบ
ซึ่งรวมถึงผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สิน (Custodian) จากต่างประเทศ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการมอนิเตอร์ข้อมูลอย่างเข้มงวดสม่ำเสมอ หากพบการซื้อขายที่ผิดปกติจะสอบถามไปยังบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทันที
ตัวอย่าง ประเด็นหุ้น JMT ที่มีคำสั่งขายมากถึง 30 ล้านหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์อธิบาย ว่า คำสั่งขาย 30 ล้านหุ้น ไม่ได้มาจากโปรแกรมเทรดของนักลงทุนต่างชาติ เป็นคำสั่งขายของผู้ลงทุนในประเทศที่ถือครองหุ้นมากกว่าจำนวนที่ตั้งคำสั่งขาย จึงไม่ใช่การ Short Sell ที่สำคัญคำสั่งขายดังกล่าวไม่เกิดการ Match เลย และไม่ได้กระทบกับราคาหุ้นช่วงเวลาที่วางคำสั่งไว้ หลังจากนั้นภายใน 20 นาทีก็มีการถอนคำสั่งขายทั้่งหมดและไม่กลับมาอีกเลยตลอดวันทำการ
... ที่สำคัญย้ำอีกว่า ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์มีการดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ในทุกวัน โดยหากพบกรณียืมหุ้นมาซื้อขาย ปกติจะสุ่มสอบถามว่าเป็นการยืมหุ้นโดยถูกต้องหรือไม่ แต่กรณีที่พบการขายก่อนจำนวนมาก แล้วซื้อคืนระหว่างวัน โดยไม่มียอดยืมหุ้นยกมา ก็จะมีการสอบถามไปยัง บล.เพื่อขอหลักฐานการยืมหุ้น และดำเนินการรูปแบบนี้ทุกบัญชีจากทุก บล.ไม่มีข้อยกเว้น
ดูเหมือนว่า ตลาดหลักทรัพย์จะยืนยันว่า การ Naked Short Selling ไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นไทย
แต่พูดกันตามจริง นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่กลับมีความเห็นตรงกันว่า Naked Short Selling มีผลกดดันตลาดหุ้นไทย และตลาดหลักทรัพย์เองก็ไม่ควรปล่อยปะละเลยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
จะทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยที่ดูแย่อยู่แล้ว แย่ลงไปอีก
สุดท้าย จะไม่เหลือนักลงทุนรายย่อยที่อยากจะลงทุนจริงๆ กลายเป็นเรื่องของการเก็งกำไรและ "การพนัน" อย่างสมบูรณ์แบบ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
https://www.thaiwarrant.com/knowledge/articles-details-132
https://www.efinancethai.com/HotTopic/HotTopicMain.aspx?release=y&id=cTJzMDdRY0JKVkU9