เป็นปัญหาที่น่ากังวลมากสำหรับผู้ถือหุ้น JKN
เพราะล่าสุด ผู้สอบบัญชี ไม่แสดงความเชื่อมั่นในงบการเงินของ JKN
และทางตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP หยุดการซื้อขายหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย JKN ประกาศผลประกอบการ 3Q66 อยู่ที่ 19.7 ล้านบาท
ลดลงจากเดิมใน 2Q66 ที่ทำได้ 84.9 ล้านบาท
ทำให้งบการเงิน 9 เดือนของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 141.2 ล้านบาท
สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือ การที่ผู้สอบบัญชี ไม่แสดงความเชื่อมั่นในงบการเงินของ JKN
พูดง่ายๆ คือ งบการเงินของ JKN กำลังมีปัญหา
และจะต้องถูกหยุดซื้อขายไปเรื่อยๆ จนกว่าปัญหาจะหมดไป
คำถาม คือ จากปัญหาที่เกิดขึ้นของ JKN เกิดขึ้นจากอะไร
คำตอบ น่าจะมาจาก 3 ปัญหาหลักๆด้วยกัน คือ
1. การขาดสภาพคล่องทางการเงิน
อย่างที่นักลงทุนได้ยินข่าวว่า JKN มีการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้รุ่น JKN239A
ส่งผลให้มีการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้อีกจำนวน 6 รุ่น (Cross Default)
ผู้ตรวจสอบบัญชี รายงานว่า JKN มีหนี้สินหมุนเวียน มากกว่า สินทรัพย์หมุนเวียน
ทำให้สถานการณ์ปัจจุบัน JKNจำเป็นต้องขอเจรจาขยายการชำระหนี้สิน และอยู่ระหว่างหาแหล่งเงินทุนใหม่ ปรับโครงสร้างกิจการ
และมีการยื่นขอต่อศาลฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 8 พฤษจิกายน 2566
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ตรวจสอบบัญชีมองว่า JKN อาจจะถูกกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพและหนี้สินจากสถาบันการเงินเรียนคืนเงินโดยพลัน และการชำระหนี้สินอาจจะไม่สำเร็จ
ทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชี แสดงถึงความไม่แน่นอนในการจ่ายชำระหนี้สินของบริษัท
2. การผิดนัดชำระหนี้
การไม่ได้คืนเงินให้ผู้ถือหุ้นกู้ หมายถึงการผิดนัดชำระหนี้
อย่างที่กล่าวไป คือ การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ JKN239A มูลค่า 609.98 ล้านบาท
โดยทาง JKN จะมีการเลื่อนจ่ายเงินออกไป พร้อมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 7% ต่อปี (จากเดิม 6.6%)
อีกทั้งยังมีการขอผ่อนผันจากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับการตอบกลับจากสถาบันการเงิน
ประเด็นสำคัญ คือ ความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้ ทางว JKN ยังไม่ได้ตั้งประมาณการเอาไว้ในเรื่องความเสียหาย และดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระหนี้ในงบการเงิน
- JKN Vs. STARK วิกฤตราคาหุ้น ในสถานการณ์ที่แตกต่าง
- กรณีศึกษา BCP หุ้นขึ้น 38% ใน 1 ปี ไขสาเหตุที่ทำให้หุ้น Outperform ตลาด
- สรุปเกิดอะไรขึ้นกับ COM7 หุ้นลง -23% ภายใน 1 เดือน ?!?!
3. การประเมินการด้อยค่า
ในงบการเงิน บอกว่าไว้ว่า บริษัทมีมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยอยู่ 2.46 พันล้านบาท
เครื่องหมายการค้า 1.33 พันล้านบาท
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน ประเภทลิจสิทธิ์ 6.27 พันล้านบาท
ค่าความนิยม 717.96 ล้านบาท
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะต้องมีการทดสอบใหม่ และกำลังอยู่ในระหว่างการประเมินโดยผู้ประเมินอิสระ
จากปัญหา 3 ข้อที่กล่าวมา พูดง่ายๆ คือ อาจจะส่งผลต่อมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
ทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความไม่เชื่อมั่นต่องบการเงินออกมา
คำถามต่อมา คือ จากปัญหา 3 ข้อนี้ นักลงทุนได้เรียนรู้อะไรบ้าง ?
บทเรียนอย่างแรก คือ ดูงบการเงิน ต้องดูงบกระแสเงินสดด้วย
ปัญหาของ JKN ถูกสะท้อนออกมาผ่านงบกระแสเงินสด
กล่าวคือ บริษัทยังมีกำไรต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันจะเห็นว่าบริษัทลงทุนมากกว่ากำไรที่หาได้ ทำให้กระแสเงินสดอิสระติดลบในแต่ละปีที่ผ่านมา
ซึ่งการที่กระแสเงินสดอิสระติดลบ อาจจะส่งผลให้สภาพคล่องของกิจการมีปัญหา และส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ในท้ายที่สุด
บทเรียนอย่างที่สอง คือ สินทรัพย์ของบริษัทมีหลายประเภท ต้องแยกให้ชัดเจน
อย่างกรณีของ JKN จะมีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด คือ เงินสด
และสภาพคล่องที่ต่ำมากๆ เช่น ลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ภาพยนตร์ และการถ่ายทอดสด ซึ่งนอกจากสภาพคล่องต่ำแล้ว ยังประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ได้ยากอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม JKN ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ไม่ใช่การหยุดทำธุรกิจโดยทันที
เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์ดีขึ้น ฐานะทางการเงินของบริษัทดีขึ้นก็อาจจะค่อยๆกลับมาฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแกร่งได้ดังเดิน
เพราะเราต้องไม่ลืมว่า ปัญหาของ JKN จริงๆ คือ การลงทุนที่มากเกินไป ส่งผลให้มีหนี้สินสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่แน่ว่า สิ่งที่ลงทุนไปอาจจะก่อดอกออกผล ในท้ายที่สุด และจะทำให้มีกระแสเงินสดเข้าบริษัท
JKN ก็จะกลับมาฟื้นตัวได้ในท้ายที่สุด
แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลามากหน่อย ก็เท่านั้นเอง ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
https://www.set.or.th/th/market/news-and-alert/newsdetails?id=84891801&symbol=JKN
https://weblink.set.or.th/dat/news/202311/1327NWS151120230830340724T.pdf
https://weblink.set.or.th/dat/news/202311/1327NWS151120230830130698T.pdf
https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/JKN/news
https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/JKN/financial-statement/company-highlights