ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่เดือนกันยายายนจนถึงตอนนี้ ปรับตัวลงไปแล้วกว่า -179 จุด
หรือคิดเป็นราวๆ -11.4%
สาเหตุหลักๆ มาจากนักลงทุนต่างชาติเทขาย
และอีกสาเหตุที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ คือ ธุรกรรม Short Sell หุ้นรายตัว ให้ลงมากเกินความเป็นจริง
โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ เช่น PTT PTTEP AOT BDMS ADVANC SCB CPALL
พูดง่ายๆ คือ ภาพรวมธุรกรรม Short Sell กำลังมีอิทธิพลมากในตลาดหุ้นไทย
และกดดันให้ดัชนีลดลงอย่างต่อเนื่อง
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้านักลงทุนกำลังถามหา "มาตรการ" การดูแลตลาดหลักทรัพย์ไทยให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น "กองทุนพยุงหุ้น"
และกองทุนพยุงหุ้นที่นักลงทุนกำลังพูดถึง คือ ESG Fund
จริงๆจะบอกว่า ESG Fund ไม่ใช่กองทุนพยุงหุ้น แต่เป็นลักษณะคล้ายกับ LTF มากกว่า คือ ลงทุนในตลาดหุ้นไทยและช่วยให้ผู้ลงทุนจัดการกับภาษีได้อีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการคลังจะมีการหารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริม รวมถึงรูปแบบของกองทุนที่จะมาสนับสนุนการออมในตลาดหุ้นในระยะยาว และมาตรการสนับสนุนการลดหย่อนทางภาษี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรูปแบบของกองทุน ESG (ESG Fund)
ESG Fund มีลักษณะคล้ายกับ LTF แต่จะเข้าลงทุนในหุ้น ESG เชื่อว่าจะช่วยหนุนตลาดทุนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ใช่การจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกองทุนพยุงหุ้น โดยจะออกกองทุนประหยัดภาษีรูปแบบใหม่ โดยเน้นเรื่องของ ESG ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เบื้องต้นประเมินว่าจะมีมูลค่ากองทุนหลักแสนล้านบาท
- สรุปเกิดอะไรขึ้นกับ COM7 หุ้นลง -23% ภายใน 1 เดือน ?!?!
- E-Refund โครงการภาครัฐ ที่คนไม่ได้เงิน Digital Wallet ต้องสนใจ
- BAM บริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ราคาหุ้น -50% โอกาสหรือความเสี่ยง ?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ถ้าประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นจริง คาดว่าจะเป็นภาพบวกต่อตลาดหุ้นไทย และมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท (ภายใน 1-2 เดือนนี้)
ตรงกับข้อมูลของ LTF ที่ช่วยให้มีเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาในตลาดหุ้นราวๆ 7 หมื่นล้านบาทต่อปี
ซึ่งเฉพาะของเดือนธันวาคมอย่างเดียว มีเม็ดเงินเฉลี่ยเข้ามาราวๆ 2 หมื่นล้านบาท
และถ้าเราดูข้อมูลย้อนหลัง พบว่า SETESG ชนะดัชนี SET Index มาโดยคลอด
กล่าวคือ เวลาบวก ก็บวกได้มากกว่า
หรือเวลาลง ก็ลงน้อยกว่า SET Index
ปัจจุบัน SETESG มีหุ้นทั้งหมด 114 ตัว เป็นหุ้นคุณภาพและเป็นเป้าหมายของกองทุนรวมประเภท Active Fund และ Passive Fund
ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า ถ้า ESG Fund เกิดขึ้นจริง จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมา Outperform ได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราพูดถึงเรื่อง ESG คือ สิ่งแวดล้อม (E: Environmental) สังคม (S: Social) และบรรษัทภิบาล (G: Governance) ของกิจการตลอดห่วงโซ่คุณค่า หรือ ESG ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสีย
นี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ เราเคยมีกองทุน SRI Fund หรือ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน มีชื่อเต็มว่า Sustainable and Responsible Investing Fund เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง ลักษณะเหมือนกองทุนทั่วไปที่สามารถลงทุนได้ ความพิเศษอยู่ที่มีนโยบายลงทุนที่มุ่งเน้นความยั่งยืน หรือ ESG : Environmental, Social และ Governance เป็นหลัก
การลงทุนดังกล่าว มีวัตถุประสงค์นำเงินของผู้ลงทุนไปลงทุนเพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริง และ บลจ. ก็เปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของ SRI Fund อย่างครบถ้วน ประกอบการตัดสินใจลงทุน ประกอบไปด้วย 5 ข้อด้วยกัน คือ
1. หลักทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับความยั่งยืน หรือ ESG Rating
2. หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีความยั่งยืน
3. หลักทรัพย์ของกิจการที่ลดปริมาณคาร์บอนฟุตปริ้นท์
4. หลักทรัพย์ของบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้มาจากกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
5. หลักทรัพย์ที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์จาก บลจ.
ESG Fund ถือเป็นความหวังใหม่ของนักลงทุนไทยที่น่าจับตามาก
เพราะถ้าสำเร็จจริง นักลงทุนรายย่อยทั่วไปมีช่องทางในการบริหารจัดการภาษีมากขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นไทยก็จะมีเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น
หลังจากที่กองทุน LTF หายไปจากตลาดหุ้นไทยได้ระยะหนึ่งแล้ว
ESG Fund กำลังเป็น Sentiment เชิงบวกที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมามีเสถียรภาพได้อีกครั้ง ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส