หุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด เชื่อว่า 90% จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า DELTA
สาเหตุเพราะราคาหุ้นขึ้นมาอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับผลประกอบการที่ดูดีขึ้นเรื่อยๆ
อย่างผลประกอบการล่าสุด 3Q66 ออกมาได้อย่าง "น่าประทับใจ"
โดย กำไรสุทธิ DELTA อยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท +32% YoY และ +16% QoQ
ดีกว่าที่ตลาดคาด (Bloomberg Consensus) มากถึง 13%
ส่งผลให้กำไร 9 เดือน ปี 2566 อยู่ที่ 1.29 หมื่นล้านบาท เติบโต 29% YoY ถือว่าออกมาดีอย่างมาก
รายได้ของ DELTA เพิ่มขึ้น จากยอดขายของกลุ่มยานยนต์ โดยเฉพาะในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้า
โดยรายได้กลุ่มยานยนต์ เพิ่มขึ้นถึง 122% YoY และคิดเป็น 31% ของรายได้รวมทั้งหมดใน ไตรมาส 3 ปี 2566
ที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ อัตรากำไรขั้นต้น ...
ถึงแม้รายได้จะเพิ่ม กำไรเพิ่ม แต่อัตรากำไรขั้นต้นไม่ได้เพิ่มตาม ลดลงเล็กน้อยราวๆ 0.8%
อาจจะเป็นเพราะว่าธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์มี Margin น้อยกว่าธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจ Data Center ที่มีอัตรากำไรมากกว่า
แต่ 3Q66 มีรายได้ลดลง เลยส่งผลให้มาร์จิ้นลดลงเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมก็ต้องยอมรับว่าผลประกอบการออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี และดีกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้พอสมควร
ไม่ใช่แค่ไตรมาสล่าสุดอย่างเดียว
ผลประกอบการของ DELTA ที่ผ่านมาก็น่าประทับใจด้วย
ปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.95 พันล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 7.11 พันล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.69 พันล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.34 พันล้านบาท
9 เดือน ปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 13.71 พันล้านบาท
- ส่องกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เป้าหมายของนักลงทุนสาย "ปันผล"
- TCAP หุ้นต่ำบุค ที่นักลงทุนไทยชอบมองข้าม
- 3 ข้อสังเกตหุ้นไทย อาจจะถูกเกินไปในเชิง Valuation
แต่ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ถึงแม้ผลประกอบการดี
แต่หุ้น DELTA กลับปรับตัวลดลง ไม่สอดคล้องกับผลประกอบการที่เติบโตขึ้น
คำตอบ น่าจะเป็นเรื่องของ ความคาดหวังการเติบโตไม่ได้โดดเด่นในอดีต
พูดง่ายๆ คือ ตลาดมองว่า นับแต่นี้ผลประกอบการของ DELTA จะค่อยๆโตช้าลง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย วิเคราะห์ว่า DELTA เคยเติบโตระดับ 50% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
แต่ 3 ปีต่อจากนี้ การเติบโตน่าจะลดลงเหลือราวๆ 23%
โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจ Data Center ที่ไม่ได้เติบโตโดดเด่นเหมือนอย่างที่ผ่านมา
ฝ่ายวิจัย มองว่า ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ใน 4Q66 น่าจะเติบโตต่อยากจากปริมาณการสั่งซื้อที่ลดลงจากกลุ่มลูกค้าในยุโรป
ส่วนธุรกิจ Data Center รายได้น่าจะทรงตัว
ยังไม่รวมธุรกิจอื่นๆของบริษัท เช่น ธุรกิจพัดลมและผลิตภัณฑ์ระบายความร้อน และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและโทรคมนาคมในต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงเรื่อยๆ
พูดง่ายๆ คือ ฝ่ายวิจัยมองว่า การเติบโตของ DELTA ไม่ได้ดีเหมือนในอดีต ทำให้ตลาดอาจจะต้องปรับประมาณการลดลง สะท้อนการเติบโตที่ลดลง
สุดท้าย เราต้องไม่ลืมว่า ราคาหุ้น DELTA ตอนนี้มี P/E สูงถึง 58 เท่า (ถึงแม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว)
และ P/BV อยู่ที่ 16.25 เท่า
นักลงทุนอาจจะต้องชั่งใจว่า ณ ระดับราคาที่ขึ้นมาก่อนหน้า รับรู้การเติบโตอย่างมากไปแล้ว
เท่ากับว่า ไม่ใช่การเติบโตที่ลดลงอย่างเดียว
แต่ความคาดหวังที่พุ่งสูงขึ้นไปก่อนหน้า กำลังกลับมาทำร้ายราคาหุ้น DELTA แทน ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 3/2566 : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย