ช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่ง ถามว่าธุรกิจไหนน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
เชื่อว่า คนส่วนใหญ่น่าจะตอบว่าธุรกิจขนส่ง และธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
แต่ถ้าเจาะลึกจริงๆ จะพบว่าธุรกิจ "สายการบิน" กำลังเป็นธุรกิจที่ได้ผลกระทบอย่างมาก เช่นเดียวกัน
และผลกระทบ อาจจะทำให้หนักถึงขั้นขาดทุนได้เลยทีเดียว

ตัวอย่างเช่น หุ้น AAV หรือ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) 
บริษัททำธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) 
โดยในปัจจุบัน บริษัทถือหุ้นใน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัดเพียงแห่งเดียว 
สำหรับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการสายการบินราคาประหยัด โดยมีรายได้หลักจากการให้บริการขนส่งผู้โดยสารแบบประจำ (Scheduled Passenger Services) และการให้บริการเสริม (Ancillary Services)

ในช่วง 3 เดือนล่าสุด ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 10% ทำให้
ราคาน้ำมันดิบในตลาด Brent Crude Oil สูงถึงเกือบ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อาจจะทำให้ต้นทุนของ AAV เพิ่มขึ้นมามากถึง 20% จากราคาน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น

ในช่วง 2Q66  AAV ประกาศกำไรปกติที่ 378 ล้านบาท 
แต่ในช่วง 3Q66 บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ มีมุมมองว่าแนวโน้มของผลประกอบการน่าจะกลับมาอ่อนแอ 
และจะทำให้ AAV มีผลขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจหลักมากถึง 1.08 พันล้านบาท (จากเดิมขาดทุน 1.17 พันล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน)
จากสาเหตุหลัก 3 ประการด้วยกันคือ
1. ต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 20% QoQ 
2. ค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น จากผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
3. ค่าตั๋วลดลง จากปัจจัยฤดูกาล

• สรุปประเด็น เกิดอะไรขึ้นกับราคาน้ำมัน
• อธิบายสาเหตุ ราคาทองคำถึงขึ้น แล้วการขึ้นลงของราคาทองเกิดจากอะไร ? 
• ลงทุนหุ้นแบบ DCA ใครบอกว่าไม่มีข้อเสีย ? 

ฝ่ายวิจัย ยังมองอีกด้วยว่า เศรษฐกิจในระยะหลังมีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วจนเกินไป ส่งผลกระทบต่อ AAV อย่างเห็นได้ชัด และมีมุมมองว่า
1. อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง
2. SG&A ต่อยอดขาย ที่สูงเกินคาด
3. ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.86 พันล้านบาท 
ฝ่ายวิจัย จึงคาดว่าในงวด 9 เดือน AAV น่าจะมีขาดทุนสุทธิสูงถึง 2.55 พันล้านบาท

คำถามคือ นักลงทุนจะเห็น AAV กลับมาฟื้นตัวได้เมื่อไร
ในระยะสั้น คือ ไตรมาส 4 ของปี 2566 และเต็มปีของปี 2567
โดยฝ่ายวิจัยมองว่า ไตรมาส 4 ผลการดำเนินงานของ AAV จะฟื้นตัวแข็งแกร่ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีเสถียรภาพ ค่าตั๋วที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้ รวมถึงการเปิดประเทศ
ด้วยปัจจันที่กล่าวมา จะเป็นโมเม้นตัมเชิงบวกต่อปี 2567 
โดยคาดว่า AAV น่าจะกลับมากำไร 1.56 พันล้านบาทได้ในปี 2567

สรุปคือ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างแรงจากความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์กำลังส่งผลให้ธุรกิจสายการบินอาจจะมีผลประกอบการที่ขาดทุน 
ในระยะสั้น อาจจะดูไม่ดีเท่าไรนัก
แต่ในระยะยาวแล้ว การเปิดประเทศน่าจะช่วยให้ผลประกอบการกลับมาฟื้นตัว
และจะเด่นชัดมากขึ้นในปี 2567

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ

marketwatch.com

ผลประกอบการสำคัญ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย