#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

รู้จัก SPA หุ้นสายบริการ ที่กำลังได้รับประโยชน์สูงมากจากการท่องเที่ยว

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,587 views

ถ้าเราพูดถึงการท่องเที่ยวไทย เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะมีมุมมองเชิงบวก
ในเรื่องการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด
แต่จะหาหุ้นที่ได้รับประโยชน์เต็มที่ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะธุรกิจแต่ละแบบจะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
เช่น หุ้นโรงแรม มีความเซนซิทีฟมากจากความไม่สงบ
หุ้นการบริโภค - ค้าปลีก พึ่งพารายได้จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาจจะได้รับอานิสงค์บ้างจากการท่องเที่ยว
แต่มีอยู่บริษัทหนึ่งที่น่าสนใจมาก และกำลังจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัว
บริษัทนั้น มีชื่อว่า SPA หรือ บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

 

จุดเริ่มต้นของ SPA มาจาก Let’s Relax ซึ่งก่อต้ังโดย คุณวิบูลย์ อุตสาหจิต จากจุดเริ่มต้นในการมองเห็นโอกาสของ ธุรกิจนวดแผนไทย ในเวทีโลก กับความตั้งใจเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ การนวดแผนไทย มีมาตรฐานใหม่ เพื่อดึงดูดลูกค้าทุกเชื้อชาติ ไม่ว่าจะชาวต่างชาติหรือคนไทย 
โดยร้าน Let’s Relax เริ่มต้นธุรกิจในปี 2541 สาขาแรกที่เชียงใหม่ ไนท์บาซาร์ โดยเริ่มจากบริการนวดกดจุดฝ่าเท้าและนวดแผนไทย ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในขณะนั้น
และค่อยๆขยายสาขาไปยังเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต หัวหิน เกาะสมุย กระบี่ ภายในปีเดียวกัน เพราะเห็นโอกาสในตลาดใหม่ๆ ที่จะเน้นเจาะกลุ่มคนชั้นกลางไทยและจับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ก่อนที่ปี 2543 จะเริ่มขยายสาขาที่กรุงเทพมหานคร พร้อมบริการใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาหลากหลายมากขึ้น

 

เรียกได้ว่า SPA เป็นธุรกิจบริการที่เป็นของไทย 100% ก่อนจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วงปลายปี 2557 ที่รา คา IPO 1.70 บาทต่อหุ้น โดยมีราคาพาร์ที่ 0.25 บาท
ปัจจุบันบริษัททำธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสปา โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ คือ 
1. ธุรกิจสปา ภายใต้แบรนด์ "Let's Relax" แบรนด์ "RarinJinda Wellness Spa" แบรนด์ บ้านสวนมาสสาจ แบรนด์ Stretch me by Let's Relax และแบรนด์ Dr. Spiller Pure Skin Care Solutions 
2. ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ในนาม "โรงแรม ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ท" เป็นโรงแรมสไตล์บูติก ที่จังหวัดเชียงใหม่ และรับบริหาร "ระริน วิลล่าส์ เชียงใหม่" และร้านอาหารภายใต้ชื่อ "Deck 1" และรับบริหารร้าน "ORB Cafe & Bar" ที่จังหวัดเชียงใหม่และเมืองพัทยา 
3. ธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาภายใต้แบรนด์ LRL (Let's Relax Lifestyle)" และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปานำเข้าจากต่างประเทศ "Dr.Spiller, Biomimetic Skin Care Solutions" 
4. กิจการโรงเรียนเกี่ยวกับการนวดแผนไทยในนาม "โรงเรียนสอนนวดไทยและสปาสยามเวลเนส" เพื่อให้การอบรมบริการนวดและสปาแก่พนักงานเทอราพิสต์ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท

 

โดยสัดส่วนรายได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ
ธุรกิจสปาและเวลเนส สัดส่วนรายได้ 84%
ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร สัดส่วนรายได้ 5%
ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา สัดส่วนรายได้ 10%
รายได้อื่นๆ สัดส่วน 1% 
ผลประกอบการของ SPA ที่ผ่านมา ...
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 1.41 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 245.47 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 435.62 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 209.08 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 174.94 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 286.72 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 721.37 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 88 ล้านบาท
ปี 2566 ผลประกอบการ 6 เดือน บริษัทมีรายไดั 684.38 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 110.58 ล้านบาท
ข้อสังเกตจากผลประกอบการคือ ปี 2563 - 2565 บริษัทขาดทุนเนื่องจากวิกฤตโควิด
แต่พอวิกฤตผ่านพ้นไป บริษัทเริ่มกลับมามีกำไรมากขึ้น สะท้อนจากปี 2566 ในรอบ 6 เดือนบริษัทมีกำไร 110 ล้านบาท

 

พูดง่ายๆ คือ SPA กำลังจะเป็นหุ้นสายบริการ 
ที่กำลังได้รับประโยชน์สูงมากจากการท่องเที่ยวของไทยที่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่
แต่ถ้าเราไปดูราคาหุ้นย้อนหลัง พบว่าใน 6 เดือน ราคาหุ้นขึ้นไปแล้วกว่า +11% เข้าไปแล้ว
แสดงให้เห็นว่านักลงทุนค่อนข้างมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น SPA ไปแล้วระดับหนึ่ง
คำถามคือ ต่อจากนี้ SPA จะเติบโตต่อไปได้อีกมากน้อยแค่ไหน ? 
คำตอบ คือ ยังเติบโตต่อไปได้อีก จากธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งคิดเป็นลูกค้ากว่า 55% ของ SPA ในช่วงเหตุการณ์ปกติ

 

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น SPA 
และมองว่าผลประกอบการ 3Q66 จะออกมาอย่าง "แข็งแกร่ง"

ฝ่ายวิจัยมองว่า รายได้ของ SPA ใน 3Q66 จะอยู่ที่ 378 ล้านบาท เติบโต +6% QoQ และ +93% YoY 
และกำไรปกติจะอยู่ที่ 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +16% QoQ จากที่ขาดทุน 15 ล้านบาทในช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
สาเหตุหลักมาจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน

ฝ่ายวิจัย มองว่า อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นที่ 30.3% จากเดิม 29% 
จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีการประหยัดต่อขนาด และสัดส่วนการขายส่งที่ลดลง

 

สอดคล้องกับมุมมองของบทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี พัฒนสิน ที่มองว่า SPA จะได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากกลุ่มลูกค้าจีนที่มีสัดส่วนราวๆ 40% 
มองผลประกอบการมีโมเม้นตัมเชิงบวกจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น

SPA คือบริษัทที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
และถือเป็นหุ้นสายบริการที่กำลังได้รับประโยชน์สูงมากจากการท่องเที่ยวของไทยที่เปิดตัวอย่างเต็มที่ ครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย

สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน  : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

รายงานประจำปี 2565 บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ทันหุ้น


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง