ช่วงต้นปี 2564 หุ้นที่สร้างประวัติศาสตร์และกลายเป็น Talf of the Town อย่างมาก คือ หุ้น OR หรือบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
ที่นักลงทุนมักจะรู้จักในธุรกิจ สถานีบริการน้ำมัน PTT และร้านกาแฟ Cafe Amazon ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
และก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง จากราคาจองซื้อที่ 18 บาท ที่ราคาพาร์ 10 บาท
ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 36.5 บาท สร้างกระแสที่น่าสนใจมากในกลุ่มนักลงทุนให้ซื้อต่อๆกันไป
สุดท้าย ราคาหุ้นค่อยๆลดลงมาเรื่อยๆ จนในวันที่ต่ำกว่า IPO
พร้อมกับภาพของ OR ที่เปลี่ยนไป จากธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตเร็ว สู่ธุรกิจที่นักลงทุนมองว่าเติบโตช้าและไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
คำถาม คือ ด้วยราคาที่ต่ำกว่า 18 บาท ซึ่งต่ำกว่า IPO น่าสนใจแล้วหรือยัง ?
อยากจะสรุปสั้นๆให้ได้ฟังกันแบบนี้ครับ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนีตี้ วิเคราะห์ว่าหุ้น OR ปรับตัวลดลงน่าจะเป็นเรื่องค่าการตลาดที่โดนแทรกแซงมาโดยตลอด
โดยหุ้น OR ปรับลดลงกว่า -10% หลังการเข้ามาของรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมกับนโยบายลดราคาน้ำมันลง ท่ามกลางราคาน้ำมันโลกที่พุ่งขึ้น
ความไม่แน่นอนเกิดขึ้น คือ จะตรึงไว้ได้นานแค่ไหน ?
ถ้ารัฐบาลไม่สามารถตรึงได้นานกว่านี้ อาจจะต้องแทรกแซงค่าการตลาดในที่สุด
และเมื่อแทรกแซงค่าการตลาด ก็อาจจะกระทบกับผลประกอบการ OR ที่เป็นผู้ขายน้ำมันให้กับประชาชนทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่เพียงแค่นั้น ...
แนวโน้มผลประกอบการ 3Q66 น่าจะอ่อนตัวตามช่วง Low Season ของธุรกิจ
หมายความว่าเป็นช่วงหน้าฝน ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง การเดินทางท่องเที่ยวลดลงถือเป็นช่วงอ่อนตัวตามฤดูกาล น่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของ OR มีแนวโน้มลดลงได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราไปดูราคาหุ้น OR จะพบว่าลดลงไปแล้วกว่า -30% ภายใน 12 เดือน
เป็นการแสดงให้เห็นว่าสะท้อนความกังวลที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแทรกแซงจากภาครัฐ และผลประกอบการทีอ่อนตัวลง
ฝ่ายวิจัย มองว่า เป็นโอกาสในการลงทุนหุ้น OR จากสาเหตุ 2 ประการด้วยกัน คือ
1. มูลค่าธุรกิจปัจจุบัน อยู่ที่ 18 บาท ด้วย P/E Ratio ประมาณ 20 เท่า ถือเป็นราคาที่ยุติธรรม
2. มูลค่าของเงิน IPO ที่จะลงทุนในอนาคต สูงถึง 11.50 บาท
3. ผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวเด่นชัดใน 4Q66
- Cafe Amazon ใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับสร้างรายได้ไม่ถึง 3% ของเครือ OR ทั้งหมด
- สรุปงบ OR ใน 2Q65 กำไรลดลง ในวันที่ธุรกิจ Mobility กดดัน
- ปรับตัวอย่างไรในช่วงหุ้นตก
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ มองว่าผลประกอบการของ OR อาจจะลดลงบ้างจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Non-Oil ที่ลดลง อาจจะทำให้รายได้ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น OR จาก 3 ประเด็นด้วยกัน คือ
1. ผลประกอบการจะเริ่มดูดีขึ้นตั้งแต่ 3Q66
2. ผลกระทบจากการควบคุมราคาน้ำมันดีเซล น่าจะส่งผลกระทบไม่มาก เพราะ OR มีศักยภาพในการบริหารสต๊อคน้ำมันไม่ให้กระทบกับผลการดำเนินงานในภาพรวม
3. ปริมาณยอดขายน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการท่องเที่ยวที่มากขึ้น
ปัจจุบัน OR ซื้อขายที่ราคา 17.90 บาท
มีค่า P/E Ratio ที่ 38.18 เท่า และ P/BV ที่2.01 เท่า ด้วยอัตราปันผลอยู่ที่ราวๆ 2.76%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
THE STANDARD WEALTH