ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นตามการเข้าออกของเงินทุน และจิตวิทยามวลชน ไม่ได้เป็นเรื่องของพื้นฐานอย่างเดียว
ในช่วงที่หุ้นขึ้น ทุกอย่างดูโอเค ทุกคนมีกำไร
แต่ในช่วงที่หุ้นตก จะเป็นตัววัดว่าเราสามารถอยู่กับมันได้ไหม เราจะรับมือกับมันได้อย่างไร
นี้เป็นคำแนะนำสั้นๆ 3 ข้อ ที่จะรับมือยามที่หุ้นลงทุกวัน เราจะปรับตัวอย่างไรดี ?
1. แบ่งสัดส่วนเงินสด และหุ้นเอาไว้ให้ดี
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า โอกาสมีอยู่เสมอ ถ้าเรารู้จักค้นหา
แต่คนกล่าวกลับลืมไปว่า ถ้าเงินหมด = หมดโอกาส
ดังนั้น นักลงทุนต้องแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนให้ดี ว่าจะถือเงินสดไว้ซื้อหุ้นยามที่ตลาดลงหนักๆกี่เปอร์เซ็นต์
นักลงทุนอาจจะกันเงินสำรองไว้ประมาณ 20% ของพอร์ต เพื่อเอาไว้ช้อนซื้อยามที่หุ้นตกหนักๆ
และไม่ควรถือหุ้นแบบ 100% เพราะหมายความว่า ถ้าเราไม่มีเงินสดซื้อหุ้นตอนที่หุ้นตก เท่ากับเราหมดโอกาสซื้อหุ้นดี ในราคาถูกๆแล้ว
2. ปรับพอร์ตบ้าง และหัดเรียนรู้ที่จะอยู่เฉยๆ
ในกรณีที่เราไม่มีเงินสดเลย เราอาจจะใช้วิธีการปรับพอร์ต คือขายหุ้นที่กำไร หรือตกน้อยกว่าตลาด ไปหาซื้อหุ้นที่มีโอกาสมากกว่า มี Margin of Safety มากกว่า หรือหุ้นที่เราคิดว่าถูกมากกว่า
แต่ถ้าเรายังพอมีเงินสดอยู่บ้าง และหุ้นที่เราถืออยู่เรามั่นใจว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดีอยู่แล้ว
สิ่งที่พอจะทำได้ คือ เรียนรู้ที่จะอยู่เฉยๆ หาจังหวะในการซื้อหุ้นเพิ่มบ้างเมื่อมีโอกาส
3. อย่ารีบซื้อหุ้น
เวลาเราเห็นตลาดหุ้นตกหนักๆ เราจะรีบเข้าไปซื้อทันที
ซึ่งวิธีการนี้อาจจะเป็นวิธีที่ผิด
เพราะหลายๆครั้ง เวลาที่หุ้นตกหนักๆ วันถัดๆมามักจะตกต่อ อาจจะเป็นเพราะว่าคนส่วนใหญ่ยังคงตกใจอยู่ และอยากจะเทขายหุ้นในวันถัดๆไป
หรืออาจจะมีเด้งขึ้นบ้างในระยะสั้นๆ แต่สุดท้ายก็ลงต่อเพราะมีแรงเทขายมากกว่า
ดังนั้น เวลาเราเจอหุ้นตกหนักๆ เราอาจจะต้องรอไปก่อน รอให้ตลาดหุ้นเริ่มปรับเข้าสู่สภาวะนิ่งๆ อย่ารีบซื้อหุ้นที่กำลังดิ่งลงรุนแรง แล้วค่อยใช้จังหวะที่ตลาดหุ้นเริ่มนิ่งๆซึมๆ เข้าซื้อหุ้นในเวลานั้น
3 วิธีเป็นเทคนิคที่จะทำให้เราอยู่ในสภาวะตลาดขาลงได้
แม้แต่คนที่เล่นหุ้นสั้นๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมครับ