ต้องยอมรับว่าผลประกอบการของ JMART ในไตรมาส 2 ปี 2566
ออกมา "ไม่น่าประทับใจ" เท่าไรนัก
โดยสาเหตุสำคัญมาจากผลประกอบการของ SINGER ที่กดดันผลประกอบการ
ทำให้ JMART ที่เคยมีกำไรราวๆ 714 ล้านบาท ในปี 2565
พลิกกลับมาเป็นขาดทุน 906 ล้านบาท ในปี 2566
ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า นักลงทุนยังคาดหวังการเติบโตของ JMART ได้อีกไหม ?
หรือถ้ายังพอคาดหวังได้ บริษัทไหนจะเป็นตัวผลักดัน
คำตอบ คือ นักลงทุนยังคาดหวังได้
และบริษัทที่จะมาเป็นตัวผลักดัน คือ JMT และสุกี้ตี๋น้อย
ยังไง ?
อยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ...
นอกจาก ประเด็นเรื่องของ SINGER จะกดดันผลประกอบการแล้ว ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ผลประกอบการของ JMART ออกมาไม่ดี เช่น
1. การบันทึกขาดทุนจากเงินลงทุน (MTM Loss) โดยเฉพาะใน BRR และ SGC
2. ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจหลัก คือ Mobile ลดลง ทำให้มาร์จิ้นหดตัว
แต่ยังดี ที่ JMART ได้ผลประกอบการของ JMT เข้ามาช่วย
โดย JMART ถือหุ้น JMT อยู่ 55%
รวมถึงกำไรของสุกี้ตี๋น้อยที่ JMART ถือหุ้นอยู่ 30% เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 300%
และถ้าเรานับเฉพาะผลการดำเนินงานอย่างเดียว JMART ยังมีกำไรอยู่ 747 ล้านบาทในครึ่งปีแรก
ดังนั้น การที่เราบอกว่า JMART ขาดทุน 906 ล้านบาท ก็อาจจะเป็นแค่การมองด้านเดียว
เพราะจริงๆแล้ว JMART ยังมีผลประกอบการที่เป็นกำไรอยู่ ไม่ใช่เป็นขาดทุนอย่างที่เราเห็น ...
- สรุปผลประกอบการ JMART ใน 2Q66 แย่กว่าคาดเพราะบริษัทลูกกดดันผลประกอบการ
- สำรวจบทวิเคราะห์ JMT 2 มุมมองที่แตกต่าง โอกาสหรือความเสี่ยง ?
- เป็นไปได้ไหม GDP ไทยโต 5% เราอาจจะเห็นหุ้นไทยคึกคักอีกครั้ง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ JMART ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
และนักลงทุนจะเห็นไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง นำโดยการเติบโตของ JMT ที่จะส่งผ่านมายังงบของ JMART ไตรมาสละ 650 บาท
พูดง่ายๆ คือ เมื่อจบปี 2566 นักลงทุนจะเห็นผลประกอบการของ JMART ออกมาเป็นกำไรสุทธิ อยู่ที่ 480 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กำไร 480 ล้านบาท ยังถือว่าน้อยกว่าที่ตลาดมองเอาไว้มาก (ตลาดมองว่าน่าจะกำไรราวๆ 800 ล้านบาทขึ้นไป)
แต่กำไรจะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในปี 2567 ที่จะมีกำไรอยู่ราวๆ 1.69 พันล้านบาท
โดยจะเป็นกำไรจากการเติบโตของธุรกิจ JMT และสุกี้ตี๋น้อย เป็นหลัก
โดยสรุป คือ หลังจากการขาดทุนหนักติดต่อกันมาสองไตรมาส
ผลประกอบการของ JMART จะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง ของปี 2566 จากกำไรของ JMT และสุกี้ตี๋น้อยที่เติบโต
และปี 2567 จะเห็นการกลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่นของ JMART
ถึงแม้จะมี SINGER คอยกดดัน แต่เชื่อว่าการตั้งสำรองของ SINGER จะค่อยๆลดลง
จะไม่ได้รุนแรง จนกดดันผลประกอบการของ JMART เหมือนในช่วงที่ผ่านมา
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ