ผลประกอบการของ JMART ใน 2Q66 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 611 ล้านบาท ถือว่า "ผิดขาด"
สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน แย่กว่าตลาดคาด จากเรื่องของบริษัทลูกโดยเฉพาะ SINGER ที่กดดันผลประกอบการอย่างมาก
สรุปสาระสำคัญของผลประกอบการ JMART ใน 2Q66 ที่น่าจับตา คึอ
1. รายได้รวม ลดลงไม่มาก อยู่ที่ 3.26 พันล้านบาท ลดลง -0.2% YoY
ทำให้รายได้ 6 เดือนค่อนข้างทรงตัว อยู่ที่ 6.64 พันล้านบาทก จากเดิมที่ทำได้ 6.78 พันล้านบาท ลดลง -2.1% YoY
2. ต้นทุนขายรวมลดลง -3.2% YoY ถือว่าทำได้ดี
3. อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 34.8%
บริษัททำได้ 1.13 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจติดตามหนี้ JMT และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ J
4. ในขณะที่ SG&A เพิ่มขึ้นมาก 36.4% YoY
โดยบริษัทให้เหตุผลว่าค่าใช้จ่ายของพนักงานเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของธุรกิจและค่าใช้จ่ายทางการตลาดของบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น
ทำให้หักลบแล้ว กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 411 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 758 ล้านบาท ลดลงไปกว่า -45.8% YoY
5. ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 56.2% และส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม (SINGER) ทำให้มีผลขาดทุน 611 ล้านบาท
จากที่เคยมีกำไร 389 ล้านบาท
6. ผลประกอบการครึ่งปีแรก
JMART มีผลประกอบการขาดทุน 906 ล้านบาท ในปี 2566
จากที่เคยมีกำไรราวๆ 714 ล้านบาท ในปี 2565 ถือว่าทำออกมาได้แย่กว่าที่ตลาดมองไว้มาก
สรุป คือ ตลาดมองว่า JMART งบน่าจะออกมาแย่ แต่ไม่ถึงขั้นขาดทุน
ในความเป็นจริง คือ ขาดทุน 611 ล้านบาท
โดยรับรู้ขาดทุนจากผลประกอบการ SINGER มากถึง 618 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่นักลงทุนมองเอาไว้ ...
- ผลประกอบการ 2Q66 ที่น่าผิดหวังของ CPF ความหวังจะกลับมาฟื้นตัว อยู่ตรงไหน ?
- สรุปผลประกอบการ SINGER 2Q66 ขาดทุนหนัก และอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
- สรุป NSL ขายแซนวิชอบร้อน ก็ทำ New High ได้
ผู้บริหารมองว่าผลประกอบการครั้งนี้ ได้รับผลกระทบจากตั้งสำรองของลูกหนี้จาก SINGER โดยตรง
ในขณะที่ธุรกิจอื่นยังอยู่ในทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง เช่น
1. ธุรกิจติดตามหนี้ด้อยคุณภาพ ภายใต้ JMT ที่ผลักดันผลประกอบการของกลุ่ม เติบโตขึ้นอย่างมาก
2. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ J หรือ JAS Asset ที่เตรียมเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ Green Village คู้บอนภายใน 3Q66 จะช่วยสร้างผลประกอบการที่ดีเพิ่มขึ้นในอนาคต
4. ธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ IT และโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะเข้าสู่ช่วง High Season และการเปิดตัวรุ่นใหม่ทั้งในส่วนของ Samsung และ Iphone
5. ธูรกิจอาหาร สุกี้ ตี๋น้อย ผลประกอบการเติบโตจากการขยายสาขาไปต่างจังหวัดตามแผนธุรกิจ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ วิเคราะห์ว่าผลการดำเนินงานของ JMART อ่อนแอลง
ในขณะที่ JMT ผลประกอบการเติบโตขึ้น แต่ผลประกอบการของ SINGER ออกมาแย่ที่สุด
นอกจากนี้ยังมีผลขาดทุนทางบัญชีจากการเข้าลงทุนในหลายบริษัท เช่น BRR และ SGC
รวมถึงการขาดทุนจาก BKD (บางกอก เดค-คอน) และ NINE (เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์)
ซึ่งบันทึกในส่วนของผู้ถือหุ้น และฉุดให้ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงอย่างมากด้วย
ฝ่ายวิจัย มองว่า ผลประกอบการของ JMART ยังมีความท้าทาย
และความไม่แน่นอนบางส่วนโดยเฉพาะ SINGER ที่จะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัว
ดังนั้น เชื่อว่าตลาดจะมองว่า JMART ยังมี downside จากผลประกอบการที่ลดลงในปี 2566
อนึ่ง JMART ประกาศผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทงดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 2/2566 : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย