เชื่อว่าหุ้นที่มีนักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดตัวหนึ่ง น่าจะเป็นหุ้น CPF 
หรือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

ผลประกอบการของ CPF ใน 2Q66 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
โดยรายงาน ขาดทุนสุทธิ 792.25 ล้านบาท จากที่เคยกำไร 4.20 พันล้านบาท ใน 2Q65
แต่ถ้าเราเจาะลึกลงไป ปรากฏว่า การขาดทุน 792 ล้านบาท มีกำไรพิเศษรวมอยู่ในนั้นสูงถึง 1.95 พันล้านบาท

พูดง่ายๆ คือ CPF มีขาดทุนสุทธิใน 2Q66 อยู่ที่ 2.75 พันล้านบาท ไม่ใช่ขาดทุน 792 ล้านบาท อย่างที่เห็น
ถ้าให้พูดแบบสั้นๆ คือ น่าผิดหวัง 
จากเรื่องของราคาหมุไก่ที่ยังกดดัน และขาดทุนจากการลงทุนในต่างประเทศ

CPF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการลดลง มาจาก .. 
1. ต้นทุนการผลิต อาหารสัตว์และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูงขึ้น
2. ราคาหมูลดลงมาก จากภาวะสินค้าล้นตลาด การนำเข้าหมูจากต่างประเทศแบบผิดกฏหมาย 
3. ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม กำลังซื้อ ไม่ได้ดีขึ้น
4. การขาดทุนจากบริษัทร่วม
5. อัตราดอกเบี้ยทั่วโลก เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

จุดของผลประกอบการที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
1.  รายได้หลักอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น +4.5% QoQ แต่ลดลง -3.7% YoY 
จากปริมาณขายที่สูงขึ้น ท่ามกลางราคาหมูไก่ที่ลดลง

2. ส่วนแบ่งผลประกอบการจากบริษัทร่วม 893 ล้านบาท ลดงจาก 1Q66 ที่ขาดทุน 1.09 พันล้านบาท 
โดยเฉพาะ CTI ในจีนที่ยังขาดทุน และ Hylife ที่ขาดทุนเพิ่มขึ้น

3. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้น

4. อัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit Margin) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สะท้อนต้นทุนการเลี้ยงดีขึ้น ราคาสินค้าเกษตรอาหารสัตว์ลดลง

5. ผลประกอบการ 6 เดือน CPF มีขาดทุนสุทธิ 3.51 พันล้านบาท
จากที่กำไรสุทธิในช่วยเดียวกัน 7.05 พันล้านบาท

• สรุปภาพรวม CPF ผลประกอบการขาดทุน มองหาปัจจัยบวก อยู่ที่ตรงไหน ?
• ผลประกอบการของ CPF กำลังขึ้นอยู่กับราคาหมู-ไก่
• รู้จัก CPFGS บริษัทลูก CPF ที่กำลัง IPO ทำธุรกิจอะไรบ้าง ?
  
   

คำถาม คือ ผลประกอบการของ CPF จะกลับมาฟื้นตัวเมื่อไร ? 
คำตอบ คือ ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ วิเคราะห์ว่า ใน 2Q66 ผลประกอบการของ CPF โดนฉุดโดยราคาหมูไก่ที่ปรับตัวลงมาก 
แต่สัญญาณของราคาหมูไก่ เริ่มขยับตัวขึ้นได้บ้างแล้วจะส่งผลให้ธุรกิจที่จีนปรับตัวดีขึ้น และส่งมายังผลการดำเนินงานในภาพรวมดูดี 
อีกทั้งธุรกิจค้าปลีกจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง
ฝ่ายวิจัย จึงเชื่อว่ากำไรสุทธิจะดีขึ้นในช่วง ไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า มองว่าผลปรนะกอบการของ CPF จะกลับมามีกำไรได้ในครึ่งปีหลัง จากราคาหมูที่เวียดนาม กัมพูชา และจีนขยับตัวสูงขึ้น พร้อมกับต้นทุนการเลี้ยงลดลง ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 
เชื่อว่า CPF จะกลับมามีกำไรปกติในปี 2566 อยู่ที่ 1.39 พันล้านบาทด ลดลง -87% YoY

ถือว่าเป็นครึ่งปีแรกของปี 2566 ที่ไม่ดีเอาซะเลยของ CPF 
ทำให้ความคาดหวังจะอยู่ที่ครึ่งปีหลังซึ่งตลาดคาดว่า CPF น่าจะกลับมากำไรได้ ผลประกอบการน่าจะฟื้นตัว ครับ

อนึ่ง CPF ประกาศงดจ่ายเงินปันผล งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2566

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ

คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 2/2566 : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย