ผลประกอบการของ CPF ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
โดย 1Q66 ขาดทุนสุทธิ 2.72 พันล้านบาท
พลิกจากกำไรสุทธิ 2.84 พันล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2565
และกำไรสุทธิ 1.81 พันล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2565
พูดง่ายๆ คือ ผลประกอบการ "แย่กว่าที่ตลาดคาด" เอาไว้มาก
และดูเหมือนว่าราคาหุ้นจะไม่หยุดลง
สาเหตุเป็นเพราะว่า นักลงทุนมองว่า CPF ไตรมาส 2 ปี 2566 ก็อาจจะแย่ลงอย่างต่อเนื่อง
จริงๆแล้ว การขาดทุนหนักถึง 2.72 พันล้านบาท ที่ตลาดคิดว่าหนักหนาเอาการแล้ว เป็นขาดทุนที่มีกำไรพิเศษรวมอยู่ในนั้นด้วย
โดย CPF มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 28 ล้านบาท
กำไรจากการขายหุ้น CPALL 681 ล้านบาท
ขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ 136 ล้านบาท
หมายความว่า ถ้าหักกำไรพิเศษออก CPF จะขาดทุนหนักกว่าเดิมอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท
คำถามแรก เกิดอะไรขึ้นกับผลประกอบการไตรมาส 1 ของ CPF
อยากจะเล่าสาเหตุให้ฟังสั้นๆ แบบนี้ครับ
1. อัตรากำไรขั้นต้นลดลง เหลือ 10.8% จากที่เคยทำได้ราวๆ 12-15%
จากราคาหมูและไก่ที่ลดลงค่อนข้างมาก
2. SG&A ที่เพิ่มสูงจึ้น
3. ภาระดอกเบี้ยจ่าย เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด
4. ส่วนแบ่งขาดทุนจากการลงทุนใน CTI ราวๆ 2.3 พันล้านบาท
5. ขาดทุนในธุรกิจ Bellisio ที่สหรัฐอเมริกาจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และธุรกิจ Hylife ในแคนาดา
ภาพรวม ถ้าให้สรุปสั้นๆว่า CPF จะกำไรหรือขาดทุน มากแค่ไหน น่าจะขึ้นอยู่กับราคาหมู-ไก่ รอบโลก รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ว่าจะแพงมากแค่ไหน
จากผลประกอบการล่าสุด ราคาหมูไทยลดลงราวๆ 7% เวียดนามลดลง 5% รัสเซีย 9% และลดมากสุด คือ กัมพูชาที่ลดลงถึง 30%
ในขณะที่ราคาไก่ปรับตัวลดลงใกล้เคียงกัน
จากที่ราคาหมูไก่ปรับตัวลง ในขณะที่ต้นทุนสูงขึ้น เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ CPF มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงไปค่อนข้างมาก
- รู้จัก CPFGS บริษัทลูก CPF ที่กำลัง IPO ทำธุรกิจอะไรบ้าง ?
- ผลประกอบการของ CPF กำลังจะขาดทุน
- SET Index ปรับตัวลง นโยบายก้าวไกล อาจจะส่งผลลบต่อบริษัทจดทะเบียน
ยิ่งไปกว่านั้น ผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้
CPF ก็มีแนวโน้มจะขาดทุนหนักด้วยเช่นเดียวกัน
โดยบทวิเคราะห์ มีมุมมองว่า CPF น่าจะขาดทุนราวๆ 1.5 พันล้านบาท จากราคาหมูไก่ที่ยังลดลงต่อเนื่อง และการลงทุนในต่างประเทศที่อาจจะขาดทุนมากกว่าเดิม
คำถาม คือ เมื่อไร CPF จะกลับมามีกำไรอีกครั้ง ?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จะเริ่มเห็นภาพการฟื้นตัวของ CPF
โดยเฉพาะราคาหมูในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มต่ำลง
รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศ ก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นด้วยในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม ปี 2566 อาจจะไม่ใช่ปีที่ดีของ CPF สักเท่าไรนัก ...
และกำไรทั้งปี 2566 อาจจะเหลือประมาณ 1.4 พันล้านบาท ลดลงมากถึง 87%
จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นนักลงทุนเทขายหุ้น CPF ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายของ CPF
ที่นักลงทุนยังต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง