#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

ผลประกอบการของ CPF กำลังจะขาดทุน

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
2,843 views

ถ้าใครติดตามราคาหุ้น CPF จะพบว่าราคาค่อนข้าง Underperform ตลาดอยู่พอสมควร
โดยภายใน 3 เดือน หุ้นลงไปแล้วกว่า 13% 
ในขณะที่ SET Index ลดลงประมาณ 5% 
ถามว่า เพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้ CPF อ่อนแอกว่าตลาด
คำตอบ น่าจะเป็นเพราะว่า นักลงทุนกำลังจะเห็นผลประกอบการของ CPF ขาดทุนในไตรมาส 1 ที่จะถึงนี้

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่าผลประกอบการ 1Q66 ของ CPF น่าจะออกมาขาดทุน 1.5 พันล้านบาท พลิกจากที่กำไร 1.8 พันล้านใน 4Q64 
ซึ่งในขาดทุน 1.5 พันล้านบาท มีกำไรพิเศษที่เข้ามาช่วยไว้ ประมาณ 1 พันล้านบาท
หมายความว่า ถ้าไม่รวมรายการพิเศษ CPF จะขาดทุนหนักถึง 2.5 พันล้านบาท เลยทีเดียว ... 
โดยสาเหตุหลักมาจาก
1. ราคาหมู ราคาไก่ ที่ร่วงค่อนข้างมาก
2. อัตรากำไรขั้นต้นเหลือเพียง 10% 
โดยหลักมาจากวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้น กดดันประสิทธิภาพการทำกำไร
3. ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ลดลง 61%
ทำให้ฝ่ายวิจัยต้องปรับประมาณการกำไรของ CPF ลดลงราวๆ 27% ในปี 2566 และลดลงอีก 25% ในปี 2567 
พูดง่ายๆ คือ CPF จะมีกำไรปกติในปี 2566 เหลือเพียง 5.2 พันล้านบาท
และในปี 2567 เหลือเพียง 6.8 พันล้านบาท (จากเดิมที่จะแตะราวๆหมื่นล้านบาท)

 

สอดคล้องกับบทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์ ที่มองว่า CPF จะขาดทุน 1.2 พันล้านบาท ใน 1Q66 โดยสาเหตุหลักมาจากราคาหมุและไก่ที่ลดลง ท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้นตามมา ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง
บทวิเคราะห์ จึงมีการปรับประมาณการกำไรปกติลดลง 30% 
หมายความว่า ผลประกอบการปี 2566 CPF น่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7 พันล้านบาท
สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องระมัดระวัง คือ อัตราสารหนี้สินต่อทุนของ CP สูงถึง 1.5 เท่า การมีดอกเบี้ยสูงจะส่งผลลบต่อผลประกอบการ
สิ่งที่ตลาดมองตอนนี้ คือ การนำ CTI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ปลายปี 2566 
รวมถึงการนำ CP Vietnam จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ในปี 2567 น่าจะทำให้ D/E Ratio ลดลง

 

 

ปัญหาของ CPF น่าจะอยู่ที่อัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิต่ำไปด้วย 
ในปี 2561 บริษัทมีรายได้ 5.51 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.55 หมื่นล้านบาท
ในปี 2562 บริษัทมีรายได้ 5.36 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.84 หมื่นล้านบาท
ในปี 2563 บริษัทมีรายได้ 5.95 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 2.61 หมื่นล้านบาท
ในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 5.17 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.31 หมื่นล้านบาท
ในปี 2565 บริษัทมีรายได้ 6.19 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.39 หมื่นล้านบาท
จะเห็นได้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ราวๆ 12% - 13% 
ทำให้อัตรากำไรสุทธิจะอยู่ราวๆ 2% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ
ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนอยากเห็น คือ ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักที่กลับมากำไรแบบจริงๆ และการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้มากขึ้นเพียงพอ

 

แต่เราก็ต้องเข้าใจว่า CPF คือธุรกิจโภคภัณฑ์ ที่ยากแก่การควบคุมต้นทุน 
เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันจะมีเรื่องของปัจจัยฤดูกาล ต้นทุนที่ขึ้นๆลงๆซึ่งมีความผันผวนสูงมากไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ หรือแม้แต่ราคาหมู - ราคาไก่
CPF แทบจะควบคุมสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย ....

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์

งบการเงิน CPF : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง