ผลประกอบการของ CPF ออกมาแล้วในปี 2565 โดย
ไตรมาส 4 ประกาศกำไร 1.82 พันล้านบาท
ซึ่งน้อยกว่าไตรมาส 3 ในปีเดียวกัน ที่ทำได้ 5.11 พันล้านบาท และ
น้อยกว่าไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ทำได้ 6.72 พันล้านบาท
.. ลดลง 65% qoq และ 73% yoy
พูดง่ายๆ คือ ออกมาได้อย่างน่าผิดหวัง และน้อยกว่าตลาดคาดค่อนข้างมาก
ที่มาภาพ : บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนิตี้
สาระสำคัญของผลประกอบการครั้งนี้
1. รายได้รวมทำได้ 6.14 แสนล้านบาท ดีกว่าปี 2564 ที่ทำได้ 5.12 แสนล้านบาท และปี 2563 ที่ทำได้ 5.89 แสนล้านบาท
2. รายได้เฉพาะไตรมาส 4 ทำได้ 1.59 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% yoy ในขณะที่รายจ่ายเพิ่มขึ้น 11% และ SG&A เพิ่มขึ้น 8%
3. กำไรไตรมาส 4 อยู่ที่ 1.82 พันล้านบาท โดยมีกำไรพิเศษจากสินทรัพย์ชีวภาพและการขายเงินลงทุนประมาณ 575 ล้านบาท
ถ้าหักส่วนนี้ CPF จะมีกำไรอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท
4. กำไรขั้นต้นอ่อนแอ อยู่ที่ 11% จากที่เคยอยู่ระดับ 15% จากสาเหตุเรื่องราคาหมู-ไก่ ลดลงราวๆ 8-10% โดยเฉพาะในเวียดนามราคาหมูลดลง 27% qoq อีกทั้งยังเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจสัตว์น้ำ
5. ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงมากถึง 6 พันล้านบาท +34% yoy
6. การลงทุนใน Hylife ขาดทุนน้อยลง ส่งผลให้กำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 12%
- กรณีศึกษา SHR ล้างขาดทุนสะสมเพื่อจ่ายปันผลในอนาคต
- Banpu กำลังมีผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวัง
- ทำไมหุ้น CPALL ราคาถึงลดลงมากถึง 5% ภายในวันเดียว ?
เรียกได้ว่าเป็นอีกปีที่น่าผิดหวังของ CPF ไม่ว่าจะพูดในแง่ของผลประกอบการหรือราคาหุ้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
คำถามคือ ในปี 2566 ภาพรวมของ CPF จะเป็นอย่างไร ?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนิตี้ วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ CPF มีแนวโน้มลดลงราวๆ 29%
พูดง่ายๆคือ กำไรของ CPF จะเหลือเพียง 1.43 พันล้านบาทด เติบโตเล็กน้อยเพียง 3% yoy เท่านั้น จากปัจจัยเรื่องราคาหมูและไก่ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ในอีกด้านคือต้นทุนวัตถุดิบ กากถั่วเหลือง ข้าวโพด ปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นตัวกดดันกำไรของ CPF
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์ วิเคราะห์ว่า CPF ยังเจอปัญหาโรคระดบาด ASF และการลักลอบนำเข้าหมูผิดกฏหมาย
อีกทั้งยังเจอปัญหาราคาหมู ไก่ ที่ลดลง ท่ามกลางต้นทุนวัตถุดิบที่ยังสุงขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจต่างประเทศ มีแนวโน้มขาดทุนน้อยลงจาก Bellesio ในสหรัฐฯ และ Hylife ในแคนาดา
อย่างไรก็ตาม CPF ยังมีการวางแผนลดหนี้จากการนำ CTI จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะเริ่มมีความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 และการนำ CP Vietnam จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เวียดนามในปี 2567
พูดง่ายๆคือ ในปี 2566 อาจจะไม่ใช่ปีที่สดใสสำหรับ CPF สักเท่าไรนัก
และถ้าเรามองกันยาวๆ เราอาจจะเห็นการกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในปี 2567
อนึ่ง CPF ประกาศจ่ายปันผล 0.4 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 8 พฤษภาคม และจ่ายเงินปันผลนวันที่ 25 พฤษภาคม คิดเป็น Yield ที่ 1.77%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนิตี้