#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

ทำไมหุ้น CPALL ราคาถึงลดลงมากถึง 5% ภายในวันเดียว ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,633 views

วานนี้ถ้าใครได้ติดตามราคาหุ้น CPALL พบว่าลดลงมากถึง 5% 
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น 
สาเหตุเป็นเพราะว่า ผลประกอบการค่อนข้างสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ...

 

โดยปี 2564 บริษัทมีรายได้ 5.65 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.29 หมื่นล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 8.29 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.37 หมื่นล้านบาท
เฉพาะไตรมาส 4 ปี 2565  บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าไตรมาส 3 ปี 2565 ประมาณ -24% qoq 
และน้อยกว่าไตรมาส 4 ปี 2564 มากถึง -53.2%

 

สาระสำคัญ ของผลประกอบการครั้งนี้ คือ
1. ร้านเซเว่นเติบโตดี +23% yoy และยอดขายต่อสาขาเติบโต +15% yoy (เปิดสาขาใหม่ 704 สาขา)
2. ธุรกิจ Makro ยอดขายต่อสาขาเติบโต +9.8% yoy
3. ธุรกิจ Lotus's ยอดขายต่อสาขาเติบโต +2.4% yoy
4. อัตรากำไรขั้นต้นของ CPALL ลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 21.6% 
5. ภาพรวมถูกกดดันโดย SG&A ที่มากถึง 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 21% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว
หลักๆมาจาก ค่าไฟ ค่าโบนัสพนักงาน และการส่งของ Delivery
6. ภาระดอกเบี้ยจ่าย 4.7 พันล้านบาท จากดีล Makro และ Lotus's

 

ข้อมุลสำคัญของ CPALL ที่นักลงทุนควรรู้ คือ
บริษัทมีสาขาเซเว่น 13,838 สาขา (เปิดใหม่ 704 สาขา) แบ่งออกเป็นสาขาต่างจังหวัด 57% ต่อกรุงเทพและปริมณฑลที่ 43%
ยอดใช้จ่ายต่อบิล อยู่ที่ 84 บาท จากเดิม 82 บาท
จำนวนคนเข้าร้านเฉลี่ย 916 คนต่อวัน จากเดิม 805 คนต่อวัน

 

 

ในเมื่อภาพรวมของปี 2565 ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้
แล้วถ้าเรามองไปในอนาคต คือ ปี 2566 จะเป็นอย่างไรต่อไป
คำตอบ คือ เราจะเห็นการเติบโตของ CPALL ต่อไปทั้งรายได้ กำไร และยอดขายต่อสาขาที่เพิ่มขึ้น

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่า แผนงานของ CPALL คือขยายสาขาต่อเนื่องอีก 700 แห่ง นั้นหมายความว่า เราจะเห็นร้านเซเว่นมากถึง 1.45 หมื่นสาขา รวมถึงภาระดอกเบี้ยจ่ายของ CPALL ในดีล Makro + Lotus's ลดลง 
ดังนั้น ผลประกอบการปี 2566 น่าจะยังเติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะยอดขายต่อสาขา น่าจะเติบโตเป็นอย่างน้อย 3-5% yoy

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองว่า กำไรของ CPALL ในปี 2566 จะเติบโตต่อเนื่องราว 20% จากการเปิดประเทศ การท่องเที่ยว และยอดขายต่อสาขาที่เพิ่มขึ้น

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ภาพรวมในปี 2565 อาจจะน่าผิดหวังจากค่าใช้จ่ายที่สูงกดดันกำไร
แต่ถ้ามองไปในปี 2566 มองว่า CPALL จะเติบโตได้ 45%
และในปี 2567 จะเติบโตอีก 11%
จากแรงหนุนของการขยายสาขาเซเว่นเพิ่มอีก 700 แห่ง เน้นการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง โดยเฉพาะสินค้า Personal Care และยังได้รับแรงสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาไทยอีก 25 ล้านคน

 

อีกทั้ง กำไรจากการเติบโตของ Makro + Lotus's ก็จะเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจที่สดใส 
... อย่างไรก็ตาม กำไรของ CPALL จะยังไม่สามารถกลับไปสู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิดได้ในปี 2566

 

สรุปแล้ว สาเหตุที่ราคาหุ้นร่วงลงค่อนข้างแรงในวันนี้ น่าจะมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
แต่เชื่อว่าตลาดน่าจะรับรู้ไปพอสมควรแล้ว จากราคาที่ลดลง
และถ้าเรามองภาพไปในข้างหน้า ถือว่าค่อนข้างสดใสทีเดียว ...

อนึ่ง หุ้น CPALL ประกาศจ่ายปันผล 0.75 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 2 พฤษภาคม และจ่ายปันผลวันที่ 19 พฤษภาคม คิดเป็น Yield ที่ 1.1%

------------------------------------------------------------------------------
Reference
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง