เวลามีบริษัทจดทะเบียน ประกาศว่าจะซื้อหุ้นคืน สิ่งแรกที่นักลงทุนคิด คืออะไร ?
น่าจะคิดถึง 2 ประเด็นด้วยกัน คือ
1. เดียวหุ้นน่าจะขึ้น ... คิดในแง่ของการเก็งกำไร
2. มีแนวโน้มสูงที่ราคาหุ้นตอนนี้จะต่ำกว่ามูลค่าความเป็นจริง ... คิดในแง่พื้นฐาน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ราคาหุ้นจะขยับขึ้นอย่างมาก
จริงๆเรื่องของการซื้อหุ้นคืน แล้วมีการเก็งกำไรราคากันไม่ใช่เป็นเฉพาะหุ้นไทยอย่างเดียว
เพราะนักลงทุนทั่วโลกจะมองไปในทิศทางเชิงบวกเหมือนกันว่า "หุ้นน่าจะขึ้น"
แต่หลายๆครั้ง การซื้อหุ้นคืน ไม่ได้แปลว่าหุ้นจะขึ้นเสมอไป
ยิ่งไปกว่านั้น การประกาศซื้อหุ้นคืนอาจจะทำให้ราคาหุ้นแกว่งตัวลงด้วย โดยเฉพาะหุ้น CPF
เมื่อไม่นานมานี้ CPF มีการประกาศซื้อหุ้นคืนครั้งล่าสุด จำนวน 200 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว 2.32% และมีกำหนดซื้อตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 65 ถึง 18 มิ.ย. 66
นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ...
เพราะในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา CPF มีการประกาศซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 3 ครั้ง โดย
ครั้งแรก เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563
บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน 400 ล้านหุ้น วงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
สรุปซื้อจริง 197,673,800 หุ้น มูลค่ากว่า 6.08 พันล้านบาท
ราคาหุ้นแกว่งตัวบริเวณ 29 - 35 บาท
ครั้งที่สอง เมื่อเดือนกันยายน ปี 2564
บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน 400 ล้านหุ้น วงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
สรุปซื้อจริง 6,606,000 หุ้น มูลค่ากว่า 156.4 ล้านบาท
ราคาหุ้นแกว่งตัวบริเวณ 23-27 บาท
และครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปี 2565
บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน 200 ล้านหุ้น วงเงินกว่า 5 พันล้านบาท
ซึ่งรายงานการซื้อไปแล้วสองครั้ง คือวันที่ 20 และ 21 ธันวาคม
ซื้อคืนรวมไปแล้ว 3.1 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 75 ล้านบาท
ราคาหุ้นแกว่งตัวบริเวณ 23 - 24 บาท
เรียกได้ว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ...
คำถาม คือ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
คำตอบ คือ พื้นฐานของ CPF เป็นหุ้นที่ดี แต่ผลประกอบการไม่เติบโตทั้งที่บริษัทมีการลงทุนไปมาก
ถ้าใครติดตาม CPF จะพบว่า CPF มีการลงทุนขนาดใหญ่ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับสูง (ประมาณ 1.9 เท่า)
ในขณะที่รายได้และกำไร ไม่ได้เติบโตจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยสาเหตุน่าจะมาจากอัตรากำไรสุทธิที่ค่อนข้างต่ำ (ประมาณ 2%-5% )
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี วิเคราะห์ว่าการประกาศซื้อหุ้นคืนครั้งนี้น่าจะส่งผลบวกต่อ CPF อย่างจำกัด จาก 2 เหตุผลด้วยกันคือ
1. เมื่ออิงจากโครงการซื้อหุ้นคืนที่ผ่านๆมา ซื้อได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เช่น กรณีครั้งล่าสุดตั้งเป้าซื้อคืน 400 ล้านหุ้น แต่กลับซื้อได้เพียง 6 ล้านหุ้นเท่านั้น
2. กำไรของ CPF ที่จะประกาศมีแนวโน้มทรงตัวจากราคาหมูที่ลดลง และอาจจะบันทึกขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพอีกราวๆ 800 ล้านบาท
ดังนั้น การขึ้นของราคาหุ้น CPF น่าจะถูกจำกัดเอาไว้
พูดง่ายๆคือ การซื้อหุ้นคืนของ CPF จะส่งผลบวกจำกัด
และการซื้อหุ้นคืน ก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นจะขึ้นเสมอไป ถ้าผลประกอบการซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังมากๆไม่ได้เติบโตตาม ....
--------------------------------------------------------------
Reference