โดย stock2morrow
424 viewsประเด็นเรื่องของการลงทุนหุ้นกู้ ที่มักจะเข้าใจกันว่า "ไม่เสี่ยง" ..
แต่กับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะทำให้นักลงทุนได้หยุดคิดแล้วว่าหุ้นกู้ก็มีความเสี่ยงที่จะโดนผิดนัดชำระหนี้ได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นกู้ที่ให้ดอกเบี้ยสูงๆ (ถึงแม้เรตติ่งจะต่ำ เพราะนักลงทุนไม่ได้สนใจ) ยิ่้งมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
คำถาม คือ ถ้าเราคิดจะลงทุนในหุ้นกู้ จะมีวิธีอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้โดนผิดนัดชำระหนี้
คำตอบ แบบสั้นๆและสรุป คือ ศึกษาหุ้นกู้ก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ถ้าให้อธิบายแบบยาวๆ น่าจะประกอบไปด้วย 4 ข้อด้วยกัน คือ
1. อ่านหนังสือชี้ชวน ดูเครดิตเรตติ้งของหุ้นกู้ทุกครั้ง
หุ้นกู้ที่มีเครดิตเรตติ้งสูงกว่า จากสถิติพบว่ามีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำกว่า หุ้นกู้ที่มีเครดิตเรตติ้งต่ำ
แต่หลายๆครั้ง เครดิตเรตติ้งไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าจะไม่มีปัญหา
เพราะหลายๆกรณี หุ้นกู้ที่มีปัญหา ก็เคยเป็นตัวที่มีเครดิตเรตติ้งสูงๆด้วยเหมือนกัน
ดังนั้น ผู้ลงทุนต้องอ่านหนังสือชี้ชวน และศึกษาบริษัทให้ดีก่อนการลงทุนทุกครั้ง
2. จรรยาบรรณหรือบรรษัทภิบาลของบริษัทผู้ออก ใครเป็นผู้บริหาร เคยมีประวัติการทุจริตหรือมีประวัติเรื่องของการผิดนัดชำระหนี้บางหรือไม่ในอดีต
3. ศึกษางบการเงิน โดยเฉพาะงบกระแสเงินสดของบริษัทให้เข้าใจ เพื่อดูว่าบริษัทมีเงินสดมากพอในการชำระหนี้ได้หรือไม่
4. ถ้ามีงบการเงินที่ไม่เข้าใจ เราสามารถศึกษาหมายเหตุประกอบงบการเงิน
ถ้าเรายังไม่เข้าใจ แสดงให้เห็นว่าบริษัทนี้ไม่น่าลงทุน เราอาจจะมองหาหุ้นกู้ตัวอื่น
เพราะเราต้องไม่ลืมว่า หุ้นกู้ที่ให้ดอกเบี้ยสูงๆ ความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย
SCB CIO แนะนำว่านักลงทุนเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ หรือหุ้นกู้ Investment Grade ซึ่งออกโดยบริษัทที่มีงบดุลที่แข็งแรง สามารถต้านทานภาวะกับภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวในอนาคตและภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงได้ อีกทั้ง ตลาดหุ้นกู้สหรัฐฯ มี Yield curve ที่สูงกว่าไทย จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
ทั้งนี้ แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูเอส แอกกริเกท บอนด์ ฟันด์ (MUBOND-D) ที่เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ Investment Grade ระยะยาวของสหรัฐฯ ที่จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่มีโอกาสลดลงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในต่างประเทศจะมีประเด็นความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งนักลงทุนต้องบริหารจัดการด้วยการทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนด้วย
