ถ้าให้มองภาพสั้นๆเศรษฐกิจไทยในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า น่าจะเป็นอย่างไร
คำตอบ น่าจะประกอบไปด้วย 2 ข้อด้วยกัน คือ
1. เงินเฟ้อไทย น่าจะออกมาอยู่ในระดับต่ำ
2. ดอกเบี้ยขาขึ้น น่าจะจบรอบไปแล้ว และกำลังเข้าสู่สภาวะเหมาะสมอย่างมีเสถียรภาพ
เมื่อไม่นานมานี้กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนี CPI เดือนสิงหาคมอยู่ที่ 0.88% YoY สูงกว่าคาดที่ 0.61% YoY และเดือนกรกฏาคมที่ออกมาเพียง 0.38%
แต่กรอบที่คาดไวส้ คือ ไม่เกิน 1-3%
เท่ากับว่าการเติบโตต่ำกว่า 1% อยู่ระดับติดต่อกันมาเป็นเดือนที่ 4 แล้ว ทำให้สินค้าหลายๆอย่างไม่ได้แพงขึ้นมากนัก
ในขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลง สาเหตุเพราะการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า และการท่องเที่ยวที่ลดลง กดดันภาพรวมของไตรมาส 2 ปี 2566 น่าจะออกมาต่ำ ส่งผลให้แบงก์ชาติอาจจะมีการปรับลด GDP ลงได้อีก
เมื่อ GDP มีแนวโน้มลดลง อาจจะทำให้นโยบายทางการเงินของแบงก์ชาติ จาก Smooth Take Off ไปสู่การ Landing อย่างมีเสถียรภาพ
พูดง่ายๆ คือ สภาวะการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา น่าจะผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว
หลังจากนี้ คือ เรื่องของการทรงตัว หรืออาจจะมีการปรับลงบ้างในระยะถัดไป (ปัจจุบัน ดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 2.25%)
- ผู้ว่าแบงก์ชาติ มองไทยเติบโตต่ำคาด ระดับการลงทุนเท่ากับก่อนปี 40
- ชวนคิด ถ้าประเทศที่เราอยู่ เงินเฟ้อพุ่ง มูลค่าเงินลดลงเรื่อยๆ เราจะทำอย่างไร ?
- CPF ขาดทุนหนักกว่า 3.5 พันล้านในครึ่งปีแรก แต่ทำไมราคาหุ้นขึ้นมาแล้ว 9% ใน 1 เดือน ?
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครได้ติดตามตลาดช่วงนี้ จะพบว่าปริมาณการซื้อขายเริ่มกลับไปสู่หุ้นกลุ่มพลังงานมากขึ้น
คำถาม คือ ทำไมนักลงทุนถึงกลับมาสนใจหุ้นพลังงานกันอีกครั้ง
คำตอบ น่าจะเป็นเรื่องของ ราคาน้ำมันดิบโลกที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ...
ล่าสุด ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน "โดยสมัครใจ"
จำนวน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงสิ้นปีนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษจิกายน ปี 2565
และตลาดหุ้นไทยก็ "ถ่วงน้ำหนัก" ในหุ้นกลุ่มพลังงานค่อนข้างมาก จึงไม่แปลกใจที่ช่วงนี้จะเห็นตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนได้มากกว่าปกติ เพราะหุ้นไทยอิงกับราคาน้ำมัน
ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันพุ่ง นักลงทุนจะเห็นตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักและพลิกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น สาเหตุหลักมาจากการลดกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
ส่วนปัจจัยอื่น เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีน และแรงกดดันจาก FED ขึ้นดอกเบี้ยลดน้อยลง
ทีผ่านมา หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นหุ้น Laggard ตลาดหุ้นไทยมาสักพัก แสดงให้เห็นว่าสะท้อนความกังวลเรื่องการปรับลดราคาพลังงานจากรัฐบาลใหม่ไปมากพอสมควรแล้ว
ดังนั้น การที่น้ำมันเร่งตัวขึ้น จะส่งผลให้กลุ่มพลังงานกลับมา Outperform ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
และ SET Index มีสัดส่วนหุ้นพลังงานเป็น 1 ใน 3 นย่าจะได้รับอานุสงค์กลับมาพลิกฟื้นได้ไม่ยาก
สรุปแล้ว หุ้นพลังงานถือเป็นหุ้นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ
สะท้อนข่าวร้ายไปมาก แต่ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบพุ่ง
จึงไม่แปลกใจ ถ้านักลงทุนจะกลับมาให้ความสนใจในหุ้นพลังงานกันอีกครั้ง ครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส