เราเคยคิดกันเล่นไหมๆว่า
ถ้าวันหนึ่งประเทศที่เราอยู่อาศัย เงินเฟ้อพุ่งอย่างรุนแรง
ข้าวของแพงขึ้นอย่างมาก ปรับราคาขึ้นกันวันต่อวัน
หรือแม้กระทั่งค่าเงินของประเทศก็ "เสื่อมค่า" ลงเรื่อยๆ
ตัวอย่างเช่น ประเทศตุรกี ...
ตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน เงินเฟ้อพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 80%
จากการเข้าแทรกแซงของผู้นำประเทศ โดยการกดดอกเบี้ยให้ต่ำ กระตุ้นการใช้จ่าย กู้ยืมเงินเพื่อมาลงทุน
ประเทศเติบโตก็จริง แต่เงินเฟ้อก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย
และการกู้เงิน ยิ่งเป็นการทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้น ประเทศขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
ความเชื่อมั่นในสกุลเงิน "ลีราตุรกี" ค่อยๆหดหายไปเรื่อยๆ
ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2566 เราใช้เงิน 1.90 บาท แลกได้ 1 ลีราตุรกี
พอมาในตอนนี้ เราใช้เงินเพียง 1.30 บาท แลกได้ 1 ลีราตุรกี
คำถามคือ ถ้าเราเป็นประชากรของตุรกี เราจะทำอย่างไร ?
อาจจะตอบได้ยาก หรือคิดไม่ออก
แต่สำหรับประชาชนชาวตุรกีแล้ว เลือกที่จะถือ "คริปโตเคอร์เรนซี" ...
- กรณีศึกษา ZEN ธุรกิจร้านอาหารที่กลับมาโตเร็วมาก หลังพ้นโควิด
- ศิลปะการโกง VI
- TOA กรณีศึกษา ราคาหุ้นลง ที่เกิดจากวิกฤตศรัทธา
เว็บไซด์ decrypt.co เปิดเผยว่า ประชากรกว่าครึ่งประเทศ เลือกที่จะสกุลเงินคริปโต มากกว่าที่จะถือสกุลเงินลีราตุรกี
สาเหตุเป็นเพราะว่า ไม่อยากเจอกับเงินเฟ้อที่รุนแรง และสกุลเงินของประเทศที่กำลังสูญเสียมูลค่าลงเรื่อยๆ
จากผลสำรวจ พบว่า อัตราการถือครองคริปโตในประเทศตุรกี เพิ่มขึ้นจาก 40% มาสู่ระดับ 52% ของประชากรชาวตุรกี
โดย 71% เลือกที่จะถือครอง Bitcoin รองมาเป็น Ethereum ประมาณ 45%
รวมถึงเหรียญ Stablecoin อื่นๆด้วย เพื่อลดความผันผวนของราคาเหรียญที่เปลี่ยนแปลงไป
ชาวตุรกีมีความเห็นว่า คนกว่า 58% ที่ถือครองคริปโต เพื่อต้องการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว
ในขณะที่ 37% ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงทุน แต่เป็นไปเพียงเพื่อรักษามูลค่าของเงินเท่านั้น (Store Value) สาเหตุเป็นเพราะว่าที่ผ่านมา สกุลเงินลีราของตุรกีเสื่อมค่าไปกว่า 50% เทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ถ้าประเทศที่เราอยู่
เงินเฟ้อพุ่ง มูลค่าเงินลดลงเรื่อยๆ เราอาจจะต้องหันไปถือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เพื่อรักษามูลค่าของเงินไม่ให้เสื่อมค่าลงไป
และคริปโต ก็อาจจะเป็นคำตอบ ก็เป็นไปได้ครับ ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
decrypt.co