#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กำลังจะทำให้หนี้สาธารณะต่อ GDP สูงเกินกว่า 70%

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
700 views

หนึ่งในนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ คือ เรื่องของเงินดิจิทัล 10,000 บาท
โดยจะให้กับคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป

สิ่งที่พอรู้ตอนนี้ คือ เงินที่แจกจะเป็น Utility Token ประเภทที่ 1
หมายความว่า Token จะสามารถนำไปใช้เพื่อการอุปโภค บริโภคได้ ไม่สามารถนำมาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้
และการจะนำไปใช้ ต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งโดยปกติ Utility Token จะไม่สามารถนำมาใช้แลกสินค้าและบริการได้

 

การแจกเงินคนละ 10,000 บาท จะต้องใช้งบประมาณมากถึง 5.6 แสนล้านบาท
ความเห็นจาก TDRI ได้ระบุแหล่งที่มาของเม็ดเงินไว้ว่า
1. รายรับจากภาษีของรัฐบาลปี 2567 ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท
2. การจัดเก็บภาษีจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 แสนล้านบาท
3. การบริหารงบประมาณ 1.1 แสนล้านบาท
4. การบริหารงบประมาณสวัสดิการซ้ำซ้อน 9 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นเศรษฐกิจระดับใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีหลักฐานว่าจะได้ผลลัพธ์ดีแค่ไหน และคำถามที่ตามมาอีกมาก
ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของเงินทุน ภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นในสภาวะดอกเบี้ยสูงจะบริหารจัดการอย่างไร
อะไรคือการปรับลดสวัสดิการที่มองว่าซ้ำซ้อน

 

ยิ่งไปกว่านั้น การกู้เงินมากขนาดนั้น อาจจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงเกินกว่า 70% ก็เป็นไปได้ 
ซึ่งปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 61.3%
พูดง่ายๆ คือ การกู้เต็มเพดานหนี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ (และภาครัฐสามารถกู้ได้อีกราว 1.58 ล้านล้านบาท)
แต่โดยหลักการแล้วไม่ควรกู้จนเต็มเพดานหนี้

 


สรุปแล้วประเด็นเรื่องของเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป พร้อมกับความไม่ชัดเจนในหลายๆอย่าง
แต่สิ่งที่ตลาดมองอยู่ตอนนี้ คือ การคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว และหนุนให้ SET Index ปรับตัวขึ้นต่อได้

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มีโอกาสที่ดัชนีจะทะลุ 1570 จุด จากประเด็นเรื่องเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท
แต่ในระยะยาวแล้ว เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะให้ผลลัพธ์แบบใด คือความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องคิดไว้อยู่เสมอครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส

thaigov.go.th


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง