เมื่อไม่นานมานี้ Bank of America ได้เปิดเผยข้อมูลบทวิจัยไว้ว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิทของธนาคาร เพิ่มขึ้น 0.1% โดยภาพรวม ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพราะติดลบกันติดต่อมา 3 เดือนแล้ว
และการเพิ่มขึ้น 0.1% ถึงแม้จะน้อยแต่ก็เป็นสัญญาณว่าจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจอเมริกา น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว
แต่มีข้อมูลที่น่าแปลกใจ คือ
พฤติกรรมการใช้บัตรที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากผู้ที่มีรายได้น้อย ไปจนถึงผู้มีรายได้ปานกลาง ที่ขยายตัวเป็นบวกสูงมาก
ในขณะที่ผู้มีรายได้สูง กลับมียอดใช้จ่ายบัตรเครดิตต่ำลง
อีกทั้งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา การใช้จ่ายผ่านบัตรของผู้มีรายได้น้อย สูงติดต่อกันมากว่า 4 เดือนแล้วเมื่อเทียบกับผู้มีรายได้สูง
ทำให้สำนักข่าว Wall Street Journal ได้บัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาโดยใช้คำว่า "Richcession"
หมายถึงสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่เกิดจากกลุ่มชนชั้นคนรวย คนรวยกำลังเจอกับภาวะถดถอย ได้รับผลกระทบหนักทำให้ลดการใช้จ่ายและการบริโภคลง
ในขณะที่กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยไปจนถึงปานกลาง กลับมีการบริโภคที่มากกว่า เศรษฐกิจในภาพรวมที่ดีดูดีกว่า
บทวิเคราะห์จาก UBS Global Wealth แสดงความคิดเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ความมั่งคั่งของครัวเรือนทั่วโลกโดยรวมลดลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มหาเศรษฐีได้ลดลงไปกว่า 3.5 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 2564
รายงานยังพบว่าความมั่งคั่งส่วนตัวทั่วโลกลดลงทั้งหมด 2.4% คิดเป็นมูลค่าราว 454.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการขาดทุนในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้
ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานะความมั่งคั่งของคนรวย
อย่างไรก็ตาม ในรายงานแสดงความคิดเห็นว่า ปรากฏการณ์ Richcession ก่อให้เกิดชนชั้นกลางมากขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงนิยามความมั่งคั่งของรายงานฉบับนี้ ที่กำหนดให้ "ความมั่งคั่ง" เป็นมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินและสินทรัพย์จริงของครัวเรือน
"เศรษฐกิจโลกกำลังประสบกับช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่น่าอัศจรรย์ โดยจากการคาดการณ์ของเครดิตสวิสพบว่า ความมั่งคั่งทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 38% ในอีก 5 ปีข้างหน้า แตะที่ 629 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 ที่สำคัญที่สุดก็คือ การเติบโตดังกล่าวน่าจะมาจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางเป็นหลัก "
- รู้จัก TACC ผู้ผลิตเครื่องดื่ม ในโถกด และ All Cafe ให้กับ 7-Eleven
- สรุป TRUE นักลงทุนจะเห็นกำไรเมื่อไร ?
- 3 ข้อต้องรู้...จัดพอร์ตลงทุนให้ดี
จากข้อมูลของ Bank of America พบว่าเงินออมของประชากรชาวอเมริกายังคงสูงสำหรับทุกกลุ่มครัวเรือน
โดยยอดคงเหลือในบัญชีเงินออมของชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมนั้น ยังคงสูงกว่า 30% ของค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิดในปี 2562 ทั้งสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้มากและรายได้น้อย
ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า ถ้าเศรษฐกิจอเมริกาเกิดภาวะถดถอย การใช้จ่ายของครัวเรือนก็จะไม่ลดลงมากและเกิดผลกระทบในวงกว้างอย่างจำกัด
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ "richcession" ก็อาจจะไม่จริงซะทีเดียว
นักวิเคราะห์จากสถาบันจัดอันดับ Moody แสดงความคิดเห็นว่า มันอาจจะดูเหมือน richcession ที่คนรวย มีความร่ำรวยที่ลดลง บริโภคลดลง
แต่ในความเป็นแล้วไม่เป็นแบบนั้นเลย
คนรวยมีเท่าเดิม เพียงแต่เขาเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายไป
หมายความว่าเรามักจะเปรียบเทียบ รถหรูมียอดขายตกต่ำ หรือนาฬิกาแพงๆขายได้น้อยลง
เพียงแต่คนรวยไม่ได้ลดการบริโภคลง เพียงแต่พวกเขาเปลี่ยนจากสินค้าราคาแพง หันไปใช้ "บริการเพื่อประสบการณ์" ที่ดีกว่า (Service Experimentation)
เช่น การไปฟังดนตรีในสถานที่หรูหรา หรือซื้อตั๋วกีฬาแถวหน้าเพื่อชมนักกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบ
พูดง่ายๆ คือ พวกเขาลดการบริโภคสินค้าหรูราลง แต่หันไปใช้บริการประสบการณ์แปลกใหม่ที่ดีกว่า ให้มากขึ้น
------------------------------------------------------------------------------
Reference
CNN Business