เวลาเราเดินเข้าไปในเซเว่น
เชื่อว่าสิ่งที่โดดเด่นและสะดุดตามากที่สุดน่าจะเป็นเคาท์เตอร์ขายกาแฟ All Cafe 
ที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู โดยเฉพาะเครื่องดื่มประเภทใช้ผงชง
ชาเย็น มัจฉะชาเขียวปั่น ช็อคโกแลต ชาไต้หวัน รวมถึงเครื่องดื่มที่เป็นลักษณะฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
รองลงมาน่าจะเป็นเครื่องดื่มในโถกด ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็น ลาเต้ ชาเย็น โอวันติน ที่ค่อนข้างหวาน และได้รับการยอมรับว่าดื่มแล้วตื่นแน่นอน !

เราเคยสงสัยไหมว่า สินค้าเหล่านี้เป็นผลงานภายใต้การดูแลของใคร ? 
คำตอบ คือ เป็นของบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC

TACC ก่อตั้งขึ้นในปี 2545 เริ่มจากการจำหน่ายเครื่องดื่มในโถกด ที่เรียกว่า Drink Dispenser ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น อย่างยาวนานกว่า 20 ปี
ต่อยอดมาเป็นหลากหลายผลิตภัณฑ์ และวางขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมาจนถึงปัจจุบัน
จนรายได้หลักของบริษัทกว่า 95% มาจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

รายได้ของ TACC จะแยกออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลักด้วยกัน คือ 
1. รายได้จากธุรกิจ B2B สัดส่วน 95% ซึ่งเซเว่นและธุรกิจ All Cafe อยู่ในกลุ่มนี้
2. รายได้จากธุรกิจ B2C สัดส่วน 5% ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าที่บริษัทสร้างขึ้นมาเอง เช่น 
เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง ณ อรุณ
ธุรกิจน้ำเชื่อมไซรัปผลไม้ตรา ทรีว่า
ธุรกิจ Cafe Business and Food Service ส่งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไปขายยังร้านกาแฟต่างๆ เช่น Jungle Café, Arabitia, Black Canyon และกาแฟพันธุ์ไทย ที่มีมากกว่า 1 พันสาขาทั่วประเทศ

รวมถึงธุรกิจ Licenses Business นำตัวละครดังๆ มาใส่ในแบรนด์ เช่น รีลัคคุมะ ซูมิกโกะกูราชิ คาแรคเตอร์ หมาจ๋า และ Jay The Rabbit เป็นต้น

ปัจจุบันรายได้ที่ผ่านมาของ TACC
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 1.52 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 162 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 1.31 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 188 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 1.34 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 214 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 1.53 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 235 ล้านบาท

• รู้จัก SAV ผู้ดูแลการจราจรน่านฟ้ากัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว
• รู้จัก SFLEX ธุรกิจผลิต "ถุง" ที่ราคาหุ้นขึ้นมาแล้วเกือบ 50% 
• รู้จัก KJL Growth Story ของการเป็นผู้นำนวัตกรรมระบบไฟฟ้า

จุดเด่นที่นักลงทุนชื่นชอบ คือ การเติบโตไปพร้อมกับการขยายสาขาของเซเว่นอีเลฟ
ในปี 2559 ร้าน All Cafe มีอยู่เพียง 3.5 พันสาขาเท่านั้น
แต่พอเซเว่นอีเลฟขยายครบ 1.2 หมื่นสาขา 
ทำให้ร้าน All Cafe มีจำนวนจุดขายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าหนึ่ง กลายมาเป็น 6.6 พันสาขา ภายใน 3 ปี

อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะมีคำถามว่า ในปัจจุบันหุ้น TACC ยังมีความน่าสนใจอยู่อีกไหม ? 
คำตอบ คือ ยังมีความน่าสนใจอยู่ 
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี วิเคราะห์ว่าหุ้น TACC ณ ราคานี้ค่อนข้าง Undervalue 
P/E อยู่ที่ 13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เป็นเพราะราคาหุ้นปรับลดลงมามาก สะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควร

ยิ่งไปกว่านั้น TACC ประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวน 11 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.81% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ด้วยวงเงินกว่า 50 ล้านบาท 
การซื้อหุ้นคืน จะทำให้หุ้นหมุนเวียนในตลาดน้อยลง กำไรต่อหุ้นสูงขึ้น และผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลที่สูงขึ้น

ถือเป็นอีกหุ้นที่นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิดครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
รานงานประจำปี 2565 บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) 

ผลประกอบการสำคัญ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี