หลายๆครั้ง เรามักจะเรียนรู้ว่า "หลีกเลี่ยงหุ้น P/E สูง"
เพราะการที่ P/E สูง บ่งบอกว่าหุ้นแพง
ยิ่งเป็นการประเมินมูลค่าหุ้นแบบอนุรักษ์นิยม จริงๆ หุ้นที่มี P/E สูงกว่า 10 เท่า ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์และเป็นกลุ่มหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง
แต่ในปัจจุบัน การประเมินมูลค่าหุ้นแบบ Value Investment มีการพัฒนาขึ้น อาจจะให้เหลือประมาณ 15 - 20 เท่า ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้
แต่คงไม่ใช่สำหรับหุ้น BE8 ที่มี P/E สูงเกือบ 70 เท่า
แต่นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้ออย่างต่อเนื่องพร้อมกับบทวิเคราะห์มองว่าเป็นหุ้นที่ราคาไม่แพงเลย
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
วันนี้เรามาทำความเข้าใจ และรู้จักหุ้น BE8 ไปพร้อมๆกันครับ ....
BE8 หรือ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ
1. ที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ที่ให้บริการแบบครบวงจรในด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM), การวิเคราะห์ข้อมูล และเทคโนโลยีดิจิทัล
มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเกี่ยวกับระบบ CRM ที่ใช้ซอฟต์แวร์ Salesforce และมีซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยบริษัทเพื่อต่อยอดการให้บริการแก่ลูกค้า
2. บริการงานสนับสนุนและดูแลระบบเทคโนโลยีให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ และพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำของโลก เช่น Salesforce, Google, MuleSoft, Tableau และ Snowflake
สัดส่วนรายได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆด้วยกันคือ
1. ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ และเทคโนโลยี สัดส่วนรายได้ 61%
2. งานสนับสนุนเทคโนโลยี สัดส่วนรายได้ 38%
3. รายได้อื่นๆ สัดส่วนรายได้ 1%
ผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 312.54 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 23.64 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 379.11 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 82.14 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 810.98 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 138.62 ล้านบาท
ไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 597.18 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 61.24 ล้านบาท
โดยบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิสูงราวๆ 20% ซึ่งถือว่าสูงมาก
จุดเด่นการเติบโตของ BE8 ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก คือ
1. การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เช่น เวียดนาม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟแวร์ Salesforce เป็นรายแรกของเวียดนาม
2. กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ที่ต้องการคำปรึกษาด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี
รวมถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ อย่าง SMEs ไปพร้อมกัน
3. การแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าที่ต้องซื้อจายผู้อื่น
- สรุปผลประกอบการ TRUE งบที่แย่กว่าคาด กับสัญญาณเชิงบวกที่มากขึ้น
- สำรวจบทวิเคราะห์ JMT 2 มุมมองที่แตกต่าง โอกาสหรือความเสี่ยง ?
- สรุปผลประกอบการ DELTA ดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นอาจจะแพงไปแล้ว
คำถาม คือ ถ้าเราดูค่า P/E จากตลาดหลักทรัพย์จะพบว่าสูงถึง 63 เท่า
แต่ทำไมบทวิเคราะห์ถึงมองว่าเป็นหุ้นที่ราคาไม่แพง และ P/E ระดับนี้ถือว่าถูก !!?!?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี วิเคราะห์ว่า BE8 คือหุ้นที่ราคาถูกที่สุดในกลุ่ม โดยวัดจากค่า Forward P/E ที่อยู่ราวๆ 38 เท่า
ในขณะที่การเติบโตยังเป็นไปตามเป้าหมาย และมองว่า BE8 คือหุ้นเด่นในกลุ่มเทคโนโลยี จึงแนะนำ Strong Buy จาก 3 เหตุผลด้วยกัน คือ
1. ไตรมาส2 ปี 2566 กำไรจะออกมาอย่างแข็งแกร่ง
ฝ่ายวิจัย เชื่อว่า BE8 จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 68 ล้านบาท เติบโต +128% YoY และ +12% QoQ มาจาก 2 เหตุผล คือ
... การเติบโตของธุรกิจแบบ Organic Growth
... อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น และ SG&A ลดลง
2. ได้รับผลกระทบจาก Saleforce น้อยมาก
เมื่อปีที่แล้ว กลุ่มซอฟแวร์ของ Saleforce มีการขึ้นราคาขายเฉลี่ย 9%
ทำให้ BE8 ต้องปรับขึ้นราคาขายด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า ราคาขายที่ขึ้นมา BE8 สามารถส่งผ่านต้นทุนไปยังกลุ่มลูกค้าได้ แสดงให้เห็นว่า BE8 มีความได้เปรียบในการแข่งขัน
ฝ่ายวิจัย เชื่อว่าการเข้ามาของ AI ทางบริษัทจะได้รับประโยชน์โดยตรงอีกด้วย
3. ครึ่งปีหลังมีโมเม้นตัมที่ดีต่อเนื่อง
ฝ่ายวิจัย มองว่า BE8 จะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากเรื่องของปัจจัยฤดูกาล และ Backlog ที่แข็งแกร่ง รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI ในไตรมาส 3 ซึ่งจะทำให้ BE8 จ่ายภาษีน้อยลง
โดยสรุปแล้ว ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า BE8 เป็นหุ้นเด่นที่สุดในกลุ่มเทคโนโลยี
และการคิดค่า P/E ที่ 38 เท่า เป็นหุ้น P/E ต่ำสุดในกลุ่มเทคโนโลยี จากการเติบโตที่เป็นไปตามประมาณการของงฝ่ายวิจัย
อนึ่ง หุ้น BE8 มีค่า P/E อยู่ที่ 63.14 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 4.22 เท่า
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี