เวลาเราพูดถึง MGC เชื่อว่านักลงทุนกว่า 90% จะเข้าใจว่ารายได้หลักและการเติบโตของบริษัทน่าจะมาจากธุรกิจการขายยานยนต์หรู
และสิ่งที่จะตามมา คือ บริการหลังการขายที่รายได้มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น
แต่นี้อาจจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว
สาเหตุเป็นเพราะว่า New Growth ของ MGC มีแนวโน้มสูงมากที่จะมาจากธุรกิจใหม่ของบริษัทที่เรียกว่า ALPHAX ธุรกิจเช่าซื้อยานยนต์หรู
เมื่อไม่นานมานี้ งาน MGC - CEO Connect วันที่ 27 กรกฏาคมที่ผ่านมา มีการพูดถึงแนวโน้มและภาพรวมของธุรกิจ
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายว่า ...
1. ธุรกิจบริการรถเช่า จะเน้นไปที่การเช่ารถ EV สัดส่วนรายได้ 6% ของรายได้
2. ตัวแทนจำหน่ายรถหรู โดยเฉพาะ BMW สัดส่วนรายได้ 80% ของรายได้ และจะเปิดตัว EV รุ่นใหม่ๆตามแผนของค่ายรถยนต์
ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจบริการทางการเงิน โดยเฉพาะ 2 ธุรกิจ คือ
1. ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรัสน์ โบรกเกอร์ (MGC ถือหุ้น 38.3%) ธุรกิจประกันภัยรถยนต์
2. อัลฟา เอกซ์ (MGC ถือหุ้น 49.99% และที่เหลือถือโดย SCBx) ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลิสซิ่ง และ Refinance ยานยนต์หรูและเรือ
ที่กำลังจะเป็น New Growth ของ MGC ที่น่าจับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจ ALPHAX
- วิเคราะห์ MGC หุ้นยานยนต์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและราบรื่น
- การเติบโตของ MGC อยู่ที่ตรงไหน ?
- สรุป ANAN ประเด็นแอชตัน อโศก กระทบหุ้นมากแค่ไหน ?
ALPHAX มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจบริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์กลุ่มพรีเมียม-ลักชัวรี่ ครอบคลุมรถยนต์, บิ๊กไบค์, เรือยอทช์ และริเวอร์โบ๊ท ซึ่งเป็นตลาด Blue Ocean ที่มีจำนวนผู้เล่นน้อยราย
ประกอบกับแนวทางการให้บริการที่มีลักษณะเฉพาะ โดย ALPHA X นับเป็น ผู้ให้บริการด้านสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์แห่งแรก ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มพรีเมียม-ลักชัวรี่โดยเฉพาะ
โดยบริษัท พร้อมนำความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า มาให้บริการจัดหา และแนะนำยานยนต์ให้ลูกค้าที่ต้องการได้จากทุกแบรนด์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ธุรกิจนี้ไม่ใช่ธุรกิจใหม่ แต่ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี 2564
ALPHAX ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ จึงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุน
แต่ผลประกอบการของ ALPHAX ดูดีขึ้นเรื่อยๆจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ
โดย 2Q66 มีขนาดพอร์ตอยู่ราวๆ 6 พันล้านบาท เติบโตมากถึง 58% YTD
ทาง MGC มองว่า ALPHAX จะเริ่ม Turnaround และเห็นกำไรตั้งแต่ปี 2567 บนฐานสินเชื่อประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ผลประกอบการของ MGC ที่ผ่านมา
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 23.07 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 603.50 ล้านบาท
ปี 2566 ไตรมาส 1 บริษัทมีรายได้ 5.37 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 81.67 ล้านบาท
โดย 1Q66 ที่ผ่านมา MGC รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก 2 บริษัท ประมาณ 4.9 แสนบาท
ดังนั้น ถ้าทั้ง 2 บริษัทพลิกกลับมาเป็นกำไร ด้วยฐานกำไรประมาณ 600 ล้านบาทในปี 2565 หรือ 81 ล้านบาท จะถือว่ามีนัยสำคัญพอสมควร
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า Profit Margin ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นมาที่ 3.6% จากเดิม 2.7% จาก Economies of scale และการเติบโตของการเช่ารถระยะสั้นของนักท่องเที่ยว ที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัท
ฝ่ายวิจัย มองว่า ผลประกอบการของ MGC จะทำจุดสูงสุดช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566
ดังนั้น ด้วยราคาปัจจุบันที่ 7.8 บาท ใกล้เคียงราคา IPO ที่ 7.95 บาท
และราคาสูงสุดที่ 10.4 บาท ถือว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจที่นักลงทุนควรกลับมามอง
โดยเฉพาะธุรกิจ ALPHAX ที่กำลังจะ Turnaround ในอนาคต และจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นระยะกลางถึงยาว
------------------------------------------------------------------------------
Reference
mgc-asia.com
เปิดตัว AlphaX : ธนาคารไทยพาณิชย์