มีไม่มากนักที่หุ้นขนาดใหญ่และ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
แค่เอ่ยชื่อก็เป็นที่รู้จัก
หนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือ MGC หรือบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)
ประกอบธุรกิจอย่างครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งประกอบด้วย 
1. กลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ 
2. กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 
3. กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ และ 
4. กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บริการบริหารจัดการ (Shared Service) บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์

MGC เข้าซื้อขายใน SET วันแรก คือวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีราคา IPO ที่ 7.95 บาท ราคาพาร์ 0.5 บาท
และเปิดซื้อขายที่ราคา 10.40 บาท หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ถดถอยกลับมาเรื่อยๆ จนกลับมาที่ราคา IPO เท่าเดิมในระยะเวลา 3 เดือน

คำถาม คือ เกิดอะไรขึ้นกับ MGC ?
คำตอบ น่าจะเป็นเรื่องของผลประกอบการที่นักลงทุนมองว่า น่าจะออกมาอ่อนแออย่างมากในไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้ 
แต่ความเข้าใจนี้ เป็นความเข้าใจที่ผิด
ในทางกลับกัน นักลงทุนอาจจะกำลังเห็นผลประกอบการของ MGC สร้างสถิติทำจุดสูงสุดใหม่

• รู้จัก COCOCO ผู้แปรรูปมะพร้าวรายใหญ่ของไทย ที่กำลังจะ IPO เร็วๆนี้ 
• รู้จัก SFLEX ธุรกิจผลิต "ถุง" ที่ราคาหุ้นขึ้นมาแล้วเกือบ 50% 
• สรุป CPALL นักลงทุนกำลังจะเห็นผลประกอบการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
   

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง วิเคราะห์ว่า MGC เป็นบริษัทที่มีรากฐานมั่นคง สามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาได้หลายครั้ง จำหน่ายสินค้าระดับกลุ่มพรีเมี่ยมที่ยังเป็นที่ต้องการสูง ยานยนต์ระดับหรู 
ฝ่ายวิจัยมองว่า ผลประกอบการของ MGC จะเติบโตได้จากปัจจัย 3 ข้อ คือ 
1. กาารเปิดตัว BMW รุ่นใหม่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
2. การส่งมอบรถ Rolls-Royce 6 คัน และ Harley Davidson อีก 107 คัน จะทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ยังมีการส่งมอบเรือ Azimut และการเปิดโชว์รูม Chris Craft เพื่อส่งมอบเรือหรู 2 ลำ
3. ธุรกิจบริการหลังการขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากยอดขายรถและเรือที่เพิ่มขึ้น

ฝ่ายวิจัย มองว่า รายได้ของ MGC จะเพิ่มขึ้น 15% 
และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10%
พูดง่ายๆ คือ กำไรไตรมาส 2/66 จะออกมาแข็งแกร่ง 
และจะคงโมเมนตัมไปยังไตรมาส 3/66 อย่างต่อเนื่อง

ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 23.07 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 603.50 ล้านบาท
ปี 2566 ไตรมาส 1 บริษัทมีรายได้ 5.37 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 81.67 ล้านบาท
... สิ่งที่นักลงทุนจะต้องติดตาม คือ ผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาเป็นแบบไหน
แต่สำหรับฝ่ายวิจัยบัวหลวง เชื่อว่า ผลประกอบการแข็งแกร่ง อย่างไม่ต้องสงสัย ครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง

สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย