คนไทยทุกคนรู้ดีว่า "มะพร้าว" ที่อร่อยที่สุด ต้องมาจากประเทศไทย
แต่เรากลับพบว่ามีคนไทยน้อยมากที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตของตลาดมะพร้าวที่นับวันจะมีแต่โตมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะคนไทยกำลังจะได้เป็นเจ้าของบริษัทผู้แปรรูปมะพร้าวรายใหญ่ของไทย คือ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO นั่นเอง
COCOCO ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้ เช่น กะทิบรรจุกระป๋อง กะทิบรรจุกล่องยูเอชที (UHT) กะทิพาสเจอไรซ์น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง น้ำมะพร้าวกล่องยูเอชที (UHT) น้ำมะพร้าวพาสเจอไรซ์ ขนมมะพร้าว และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco และ Cocoburi
... นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้ตราสินค้า Moochie โดยสินค้าทั้งสองประเภทมีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และการรับจ้างผลิตสินค้า (Original Equipment Manufacturer หรือ OEM)
ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
รวมถึงการเป็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพจากโปรตีนพืช และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชีสและเนยประเภทต่างๆ ที่ทำจากพืช
สัดส่วนรายได้ของ COCOCO มาจาก 4 ส่วนหลักด้วยกัน คือ
1. ผลิตภัณฑ์กะทิ คิดเป็นสัดส่วน 57%
2. ผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว คิดเป็นสัดส่วน 31%
3. ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง คิดเป็นสัดส่วน 8%
4. ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ขนมจากมะพร้าว ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะพร้าวและเครื่องสำอางค์ คิดเป็นสัดส่วน 4%
โดยสิ่งที่กล่าวมา ทั้งหมดมาจากการเป็นเจ้าของแบรนด์เอง สัดส่วนรายได้ 9% และสินค้า OEM สัดส่วนรายได้สูงถึง 91%
ผลประกอบการของ COCOCO ที่ผ่านมา ...
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 3.03 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 69.46 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 3.03 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 241.88 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 3.48 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 302.22 ล้านบาท
.
ปี 2565 ไตรมาส 1 บริษัทมีรายได้ 839.42 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 61.62 ล้านบาท
ปี 2566 ไตรมาส 1 บริษัทมีรายได้ 859.20 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 66.90 ล้านบาท
ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO เปิดเผยว่า ตอนนี้ ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 370 ล้านหุ้น เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม 2566 มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.17%
โดยจะเข้า SET ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม ภายในปี 2566 ...
ดร.วรวัฒน์ กล่าวว่า ...
การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ รองรับการเติบโตในอนาคต ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดความสำเร็จของ COCOCO ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำผู้ผลิตและจำหน่าย ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้รายใหญ่ของไทย
หลังเข้ามาระดมทุนครั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินเพิ่มทุนครั้งนี้ คือ
1. ใช้ขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว (COCOCO) โดยซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อผลิตน้ำมะพร้าว เพื่อขยายกำลังผลิตน้ำมะพร้าวจากประมาณ 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี รวมถึงขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว,
2. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่นของสุนัขและแมว
3. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในไอศกรีม,
4. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
5. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ (Working Capital) สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
นี้ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ นักลงทุนไทยต้องจับตามองกันให้ดีเลยครับ ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
ข้อมล Filling : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย