ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตลาดที่เรียกได้ว่าปรับตัวลงมาแรงน่าจะเป็นตลาดน้ำมัน 
โดย ตลาด Brent Crude Oil ปรับตัวลงไปแล้ว -37% ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา
สอดคล้องกับตลาด WTI ที่ปรับตัวลงไปแล้ว -40%

แน่นอนว่าการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงมาแรง อาจจะเป็นผลดีในแง่อัตราเงินเฟ้อที่ค่อยๆชะลอตัวลง
ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกลดความร้อนแรงในการขึ้นดอกเบี้ยลงได้บ้าง
แต่การที่ราคาน้ำมันปรับตัวลง ย่อมไม่ส่งผลดีต่อผู้กลุ่มส่งออกน้ำมัน อย่างกลุ่ม OPEC+

เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา CNBC รายงานว่ากลุ่ม OPEC+ อาจจะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง เพื่อดึงราคาน้ำมันให้ขึ้นมาและไม่ต่ำไปกว่านี้
โดยซาอุดิอาระเบีย จะลดกำลังการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (หลังจากที่ลดไปแล้ว 5 แสนบาร์เรลในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา)
และทางกลุ่มตกลงกันว่าจะพยายามลดการผลิตน้ำมัน 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นระยะเวลา 1 เดือนและจะกลับมาตัดสินใจใหม่อีกครั้งในช่วงเดือนกรกฏาคม

พูดง่ายๆ คือ ทางกลุ่มต้องการดึงให้ราคาน้ำมันกลับมาแพงขึ้น
และนักลงทุนอาจจะไม่ได้เห็นราคาน้ำมันต่ำกว่านี้อีกแล้ว
สาเหตุเป็นเพราะว่า ถ้าราคาน้ำมันตกลงไปอีก ทางกลุ่ม OPEC+ ก็จะปรับลดราคาน้ำมันลงอีก 
โดยนักวิเคราะห์จาก CNBC มองว่าทางกลุ่มอาจจะลดกำลังการผลิตอีก 1.6 - 2 ล้านบาร์เรลในเดือนตุลาคม และอาจจะลากยาวไปจนถึงกลางปี 2567 ก็มีความเป็นไปได้ ...

OPEC+ เน้นย้ำว่าต้องการให้ Supply ในตลาดน้ำมันดิบมีความสมดุลมากขึ้นเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบให้มีเสถียรภาพ อีกทั้งกำลังการผลิตของกลุ่มคิดเป็น 40% ของกำลังการผลิตน้ำมันทั่วโลก
ดังนั้น ทางกลุ่มมองว่าราคาน้ำมันไม่ควรต่ำกว่า 80 เหรียญ9 
ปัจจุบัน ราคาน้ำมันอยู่ที่ 76 เหรียญต่อบาร์เรล

• สรุป BTS ทำไมหุ้นรถไฟฟ้าถึงราคาร่วงเกือบ 20% ภายใน 5 เดือน
• 8 เรื่องหุ้น ที่ผมอยากบอกคุณของ “แพท” ภาววิทย์ กลิ่นประทุม จากคลาสเรียน BullMoon Exclusive
• สรุป STARK การผิดนัดชำระหนี้ อาจจะนำไปสู่การล้มละลาย
   

คำถาม คือ การประชุม OPEC+ จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร 
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในภาพรวม
แต่สำหรับธุรกิจโรงกลั่นอาจจะส่งผลเสียต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่อาจจะได้กำไรจากสต็อคราคาน้ำมัน

แต่ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย มองว่าราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมามาก จนมี Downside ที่จำกัด คาดว่าน่าจะเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นทั้งกลุ่ม

สรุปแล้วการประชุม OPEC+ เป็นการลดกำลังการผลิตเพื่อดึงราคาน้ำมันให้กลับมาไม่ต่ำกว่า 80 เหรียญ
แน่นอนว่าราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง อาจจะทำให้เงินเฟ้อและต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น
แต่สำหรับคนที่ถือหุ้นพลังงานแล้ว ดูเหมือนว่าจะส่งผลบวกมากกว่า
ประเด็นนี้ยังต้องติดตามกันต่อไปครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
CNBC

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส