ถือเป็นอีกหุ้นที่นักลงทุนจับตามองกันเป็นอย่างมากสำหรับหุ้น STARK
ย้อนรอยเหตุการณ์ ก่อนที่จะมีวันนี้พอจะสรุปได้ 3 ข้อ คือ
1. ปัญหาแรกมาจากการไม่ส่งงบการเงิน ปี 2565
2. ผู้บริหารทยอยลาออกไปเรื่อยๆ รวมตัวเปลี่ยนตัว CFO และผู้ดูแลบัญชี
3. หยุดการซื้อขายหุ้น STARK เป็นเวลา 3 เดือน
และจะเปิดกลับมาซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2566 เป็นระยะเวลา 1 เดือน ก่อนจะขึ้นเครื่องหมาย SP ยาวๆ
คำถาม คือ ณ เวลานี้เกิดอะไรขึ้นกับ STARK
นักลงทุนเขากำลังกังวลอะไรกัน ?
คำตอบ คือ เรื่องของการผิดนัดชำระหนี้
STARK มีหุ้นกู้ทั้งหมด 5 ชุด โดยผู้ถือหุ้นกู้ 2 ชุด คือ STARK239A และ STARK249A รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2.24 พันลบ. ได้ขอเรียกคืนให้บริษัทชำระหนี้ทันที หากบริษัทไม่สามารถชำระหนี้ในหุ้นกู้ทั้ง 2 รุ่น จะทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ (Cross Default) ในอีก 3 ชุดที่เหลือ มูลค่ากว่า 6.96 พันล้านบาท
และยังมีหนี้จากการกู้ยืมสถาบันการเงินอีก 8.6 พันล้านบาท
เท่ากับว่า มูลนี้ทั้งหมด 5 ชุด + เงินกู้สถาบันการเงิน เป็นเงินกว่า 1.78 หมื่นล้านบาท !!
นั่นหมายความว่าถ้าเกิด Cross Default ขึ้นจริงๆ
บริษัทอาจจะถึงขั้นล้มละลาย ในที่สุด
- สรุปปัญหา STARK วิกฤตโดมิโนครั้งนี้กระทบกับบริษัทไหนอีกบ้าง ?
- STARK ทำธุรกิจอะไร ก่อนจะมาถึงวันนี้ ?
- 3 ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทย ที่นักลงทุนต้องรู้
โดยสรุปแล้ว ตอนนี้ STARK
1. กลับมาซื้อขาย ภายใน 1 เดือน (1-30 มิถุนายน 66) ก่อนขึ้น SP
2. ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance
3. ตลาดหลักทรัพย์จะไม่นำหุ้น STARK มาคำนวนดัชนี SET Index
ซึ่งปัญหาตอนนี้ของ STARK คือ
มีหุ้นกู้ 2 ชุด มูลค่า 2.24 พันล้านบาท ที่อาจจะผิดนัดชำระหนี้ ทำให้เกิด Cross Default ไปหุ้นกู้ชุดอื่น มูลค่ากว่า 6.96 พันล้านบาท
วันนี้กลับมาซื้อขายวันแรก
ราคาหุ้น STARK น่าจะฝุ่นตลบกันพอสมควร ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
wealthythai.com