#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

STARK ทำธุรกิจอะไร ก่อนจะมาถึงวันนี้ ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
32,410 views

หุ้นที่น่าจะกำลังเป็น Talk of The Town มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น STARK หรือ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

เมื่อวานนี้ มีกระแสข่าวว่า ...STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ "นายชินวัฒน์ อัศวโภคี" ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ

จริงๆแล้วการลาออกของกรรมการไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ปัญหา คือ ก่อนหน้านี้ STARK มีประเด็นเรื่องของการไม่ส่งงบการเงิน จนทำให้ตลาดหลักทรัพย์หยุดการซื้อขายหุ้น STARK ไปตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

และก่อนหน้านี้ STARK มีการแจ้งลาออกของ CEO แบบกระทันหัน รวมถึงผู้ตรวจสอบบัญชีใหม่

พูดง่ายๆ คือ นักลงทุนกำลังสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น STARK กันแน่ ?

แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นนักลงทุนเคยสงสัยไหมว่า หุ้น STARK มีที่มาจากอะไร และทำธุรกิจอะไร ก่อนจะมาถึงวันนี้ ?

STARK ไม่ได้มีการ IPO แบบเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนหุ้นตัวอื่นๆ แต่ใช้วิธีเข้าตลาดแบบ Backdoor Listing

Backdoor Listing คือ การที่บริษัทเข้าตลาดหุ้นโดยทางอ้อม ด้วยการให้อีกบริษัทหนึ่งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นอยู่แล้ว เข้าซื้อสินทรัพย์หรือหุ้นของบริษัทที่ต้องการจะเข้าตลาด

อย่างในกรณีนี้ ชื่อเดิมของ STARK คือ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM ทำธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ ที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ผลประกอบการของ SMM ขาดทุนอยู่เรื่อยๆ

แต่การ Backdoor ของ STARK ทำให้พื้นฐานของ SMM เปลี่ยนไป จากบริษํทรายได้หดตัว ขาดทุนเรื่อยๆ กลายมาเป็นบริษัทที่มีรายได้แตะ "หมื่นล้านบาท" และกำไรระดับเกือบ "สามพันล้านบาท"

ถามว่า STARK ทำธุรกิจอะไร ทำไมรายได้ และกำไรดีขนาดนั้น

คำตอบ คือ ทำธุรกิจานสายไฟ สายเคเบิลและธุรกิจบริการแรงงาน ธุรกิจสายไฟและสายเคเบิล โดยสัดส่วนรายได้ตรงส่วนนี้ มากกว่า 90%

พูดง่ายๆคือ ธุรกิจขายสายไฟ ได้กลายมาเป็นธุรกิจหลักของ STARK ไปเรียบร้อยแล้ว

การเข้ามาของ STARK เรียกได้ว่าพลิกโฉม SMM ไปอย่างสิ้นเชิง จากธุรกิจตะวันตกดิน กลายมาเป็นธุรกิจเติบโตสูงและที่สำคัญคือ มูลค่าหุ้นไม่แพงเลย เมื่อวัดกันตามตำรา

ด้วยผลประกอบกาที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และ P/E Ratio ที่อยู่ระดับ 10 เท่า คำถาม คือ ด้วยธุรกิจขายสายไฟอย่างเดียว เชื่อว่าตลาดคงไม่ให้ความสนใจมากขนาดนี้และผลประกอบการคงจะไม่โตแบบก้าวกระโดด แสดงว่า STARK ต้องมี "จุดเด่น" ด่านอื่นๆ 

จุดเด่นของ STARK คืออะไร ทำไมนักลงทุนถึงให้ความสนใจ ?

คำตอบ น่าจะมาจาก 3 ส่วนด้วยกัน คือ

1. การเข้าไปมีส่วเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เติบโตสูงมาก อย่างรถไฟฟ้า
กล่าวคือ สถานีอัดประจุ (EV Charger Station) ของรถ EV อาจจะต้องใช้สายไฟของ STARK ซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิตสายไฟแรงดันกลางจนถึงสูงพิเศษให้กับภาครัฐอยู่แล้ว เมื่อสถานีอัดประจุมากขึ้น บริษํทก็ขายสายไฟได้มากขึ้น เติบโตตามกระแสของรถไฟฟ้า

2. การเข้าไปลงทุนในวียดนาม
ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตเร็ว และคนมีกำลังซื้อสูง เศรษฐกิจของประเทศกำลังขยายตัว รวมถึงเป็นฐานในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่นๆ ผลักดันการเติบโตของบริษํทให้สูงยิ่งขึ้น

3. ผลประกอบการดี งบการเงินสวย ตั้งเป้ารายได้ 3 หมื่นล้าน
ต้องยอมรับว่าผลประกอบการของ STARK ดูดีมาโดยตลอด เติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่ารายได้ของบริษัทต้องแตะระดับ 3 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 2.7 หมื่นล้านบาท 

แต่แล้วเหตุการณ์ที่นักลงทุนเริ่มสงสัยก็ได้เริ่มต้นขึ้น ...

เมื่อปลายปี 2565 บริษัทมีการประกาศว่าจะขอเพิ่มทุน 1,500 ล้านหุ้น ขายในราคาหุ้นละ 3.72 บาท  ให้กับนักลงทุนสถาบัน 11 ราย

ซึ่งจุดประสงค์ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ คือ การระดมเงินไปซื้อกิจการ LEONI AG และ LEONI Bordnetz-Systeme GmbH และหุ้น LEONI Kabel GmbH ซึ่งจดทะเบียนอยู๋ในประเทศเยอรมนี ทำธุรกิจประเภทโซลูชันสายเคเบิลสำหรับยานยนต์

แต่อยู่ดีๆ ดีลนี้ก็ถูกยกเลิกจากเหตุผลด้วยเรื่องของสถานการณ์รัสเซีย ยูเครน ยืดเยื้อ ขั้นตอนการซื้อกิจการล่าช้าออกไป และบริษัทก็ชี้แจงว่าจะเก็บเงินเพิ่มทุนไว้ลงทุนกับโครงการอื่น

แล้วก็ตามมาด้วยการลาออกของผู้บริหาร กรรมการ รวมถึงผู้ตรวจสอบบัญชี ส่งผลให้เกิดการส่งงบการเงินล่าช้าออกไป ที่น่าสนใจ คือ การหยุดซื้อขายหุ้น STARK ไปแล้ว ทำให้ราคาหุ้นแทบจะไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร

เชื่อว่า วันที่เปิดการซื้อขาย ถือเป็นหุ้นที่ตลาดจับตากันอย่างแน่นอนครับ

-----------------------------------------
 

Reference

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
PPTV
Hooninside.com
ผู้จัดการออนไลน์ [1]หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
investing.in.th
forbesthailand
ทันหุ้น
งบการเงิน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกร


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง