#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

3 ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทย ที่นักลงทุนต้องรู้

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
568 views

ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา 
เต็มไปด้วยปัจจัยเชิงลบ ที่มองแบบผ่านๆแล้วไม่น่าจะทำให้หุ้นไทยกลับมาดีได้เลย

คำถาม คือ ปัจจัยลบที่มีอยู่มากมายตอนนี้ นักลงทุนกำลังสนใจปัญหาอะไรมากที่สุด
คำตอบ น่าจะมีอยู่ 3 ปัจจัยด้วยกัน คือ

 

1. ปัญหา Debt Celing และการขึ้นดอกเบี้ยของ FED 
ถึงแม้ว่าปัญหา Debt Celing จะดูผ่อนคลายมากขึ้นหลังพรรครีพับลิกันแสดงความเห็นด้วยในการขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ แต่เรื่องต้องส่งให้สภาคองเกรสเพื่ออนุมัติ ซึ่งอาจจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม ยังต้องติดตามกันต่อ
ส่วนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED มีแนวโน้มว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยไปสู่ระดับ 5.50%

 

2. ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง
เมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดน้ำมันดิบ WTI ลดลง -4% หลุด 70 เหรียญเป็นที่เรียบร้อย
จากความกังวลในการประชุม OPEC+ ว่ารัสเซียอาจจะไม่เห็นด้วยในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน ในขณะที่กลุ่มสมาชิกมีท่าทีเห็นด้วยเพราะมองว่าราคาน้ำมันดิบอยู่ระดับ 70 เหรียญนานเกินไป


3. การประชุม กนง. วันนี้ 
ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2% 
ซึ่งเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยให้ซื้อขายบน P/E ที่ต่ำลง 
เป็นการกดดันตลาดหุ้นช่วงสั้นๆ


อนึ่ง ข้อมูลตลาดหุ้นไทยที่น่าสนใจ ณ เวลานี้ 
นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยไปแล้วกว่า -3.2 หมื่นล้านบาททำให้
ทำให้ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีของต่างชาติอยู่ที่ -9.2 หมื่นล้านบาท
... กองทุนไทย ซื้อสะสม +3.4 หมื่นล้านบาท
... นักลงทุนรายย่อย ซื้อสะสม +6.4 หมื่นล้านบาท

ส่งผลให้ สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติเหลือราวๆ 29.3%
แต่ถ้าเราหัก NVDR จะเหลืออยู่ประมาณ 23.67%
และถ้าหักหุ้น DELTA ออก จะเหลืออยู่ประมาณ 19% เท่านั้น

สำหรับประเด็นเรื่องของตลาดตราสารหนี้ ที่เรามักจะได้ยินข่าวมาว่าฝรั่งเทขายอย่างหนัก
สรุป สั้นๆ คือ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม (ก่อนเลือกตั้ง) ต่างชาติซื้อสะสม 6.8 หมื่นล้านบาท
แต่พอหลังเลือกตั้ง ต่างชาติเทขายหนัก จนเหลือยอดซื้อสะสม 9.8 พันล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ เขาซื้อหนักไปแล้ว ก็ไม่แปลกที่จะขายหนักๆ ตามไปด้วย


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง