ผลประกอบการของ BTS ปี 2566 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.83 พันล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ที่ทำได้ 3.82 พันล้านบาท (ลดลง -127% yoy)
ถ้าให้พูดสั้นๆ คือ ออกมาน่าผิดหวัง และแย่กว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ค่อนข้างมาก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นราคาหุ้นลงมาเกือบ 20% ภายใน 5 เดือน ...
สาระสำคัญของผลประกอบการครั้งนี้ ที่นักลงทุนน่าติดตามคือ
1. ผลประกอบการ 4Q66 ขาดทุน 222 ล้านบาท จากที่เคยกำไร 813 ล้านบาท ใน 4Q65 และกำไร 1 พันล้านบาท ใน 3Q65
2. สาเหตุที่ผลประกอบการแย่มาจาก BTS มีรายจ่ายพิเศษจากตราสารอนุพันธ์ 602 ล้านบาท และการด้อยค่าจากเงินลงทุนจากบริษัทลูก
ซึ่งถ้าเราตัดรายการพิเศษออกไป จะมีกำไรจากธุรกิจหลัก 380 ล้านบาท
... ก็ยังแย่กว่าที่ตลาดคาเอาไว้อยู่พอสมควร
3. ค่าใช้จ่าย SG&A พุ่งสูงขึ้นมาก อยู่ที่ 1.25 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% yoy
ในขณะที่รายได้ อยู่ที่ 5.01 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% yoy
4. ผลขาดทุนจาก VGI และผลขาดทุนจากการลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการกดดันผลประกอบการ
5. ธุรกิจหลัก (เดินรถไฟฟ้า) รายได้เพิ่มขึ้น 21% ถือว่ายังทำได้ดี
โดยสรุปแล้ว ถ้าพูดถึงธุรกิจรถไฟฟ้า ผลประกอบการยังทำได้ดี
แต่งบที่ออกมา 4Q66 ขาดทุน มาจากแรงกดดันจากบริษัทลูกๆผ่าน VGI
โดย VGI ถือหุ้น KEX JMART ร่วมถึงธุรกิจ Rabbit Holding
- สรุป PTT New S-Curve ใหม่ของบริษัทอยู่ที่ตรงไหน ?
- สรุป STARK การผิดนัดชำระหนี้ อาจจะนำไปสู่การล้มละลาย
- สิงห์ เอสเตท อสังหาริมทรัพย์นอกสายตานักลงทุนที่กำลังจะเติบโตอย่างมากในอนาคต
คำถามคือ แล้วต่อจากนี้ผลประกอบการของ BTS จะเป็นอย่างไรต่อไป ?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี มีแนวโน้มเชิงบวกในภาพรวม โดยเฉพาะธุรกิจเดินรถไฟฟ้าที่มีโอกาสเติบโตจากส่วนขยายเส้นทาง และจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
... ส่วนต่อขยายสายสีเหลือง จะรับรู้รายได้ในวันที่ 3 กรกฏาคม 2566
และส่วนต่อขยายสายสีชมพูด จะรับรู้รายได้ภายในปี 2567
... จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นราวๆ 31%
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเดินรถไฟฟ้าอยู่ในเชิงบวก
แต่เรื่องของธุรกิจการลงทุนมีแนวโน้มอ่อนแอลง นำโดย VGI โดย BTS ถือหุ้นอยู่ราวๆ 52%
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี ยังฝากข้อสังเกตอีกด้วยว่า กรณีเลวร้ายที่สุดของ BTS คือ สูญเสียรายได้จากเส้นทางสายหลักไปหลังหมดสัมปทานในปี 2029 มูลค่าหุ้นก็น่าจะอยู่ราวๆ 7.76 บาทต่อหุ้น
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยมองว่าการที่ราคาหุ้น BTS ร่วงมาเกือบ 20% ถือว่าลงมามากเกินไป และสะท้อนความเสี่ยงด้านความไม่แน่นอนไปเยอะมากแล้ว
แนวโน้มผลประกอบการรถไฟฟ้าดูดีขึ้นเรื่อยๆ และการเพิ่มส่วนต่อขยายในอนาคต ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ BTS เติบโต
BTS เป็นหุ้นรถไฟฟ้าที่นักลงทุนต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับ ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี [1]
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี [2]
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย