เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นที่นักลงทุนจับตากันมากที่สุด
น่าจะเป็นริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ที่ราคา -29% จนเกือบติดฟลอร์
ถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น JAS
ถ้าให้สรุปแบบสั้นๆ คือ ผลประกอบการ 1Q66 ขาดทุนหนักถึง 875 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลงกว่า 763% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ยังมีกำไรสุทธิราวๆ 132 ล้านบาท
โดยเฉพาะธุรกิจหลัก คือ รายได้จากงานให้บริการอินเตอร์เน็ตความเรวสูงและอินเตอร์เน็ตที่ลดลงอย่างมาก
แต่ถ้าให้อธิบายแบบยาวๆ นอกจากจะมีประเด็นเรื่องของผลประกอบการแล้ว ยังมีความกังวลอีกหลายอย่าง เช่น
1. การขึ้นเครื่องหมาย C ของตลาดหลักทรัพย์
สาเหตุเป็นเพราะว่า JAS ขาดทุนต่อเนื่องจนส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) ต่ำกว่า 50% ของทุนชำระ
2. ผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี
ปี 2563 บริษัทขาดทุน 3.12 พันล้านบาท
ปี 2564 บริษัทขาดทุน 1.50 พันล้านบาท
ปี 2565 บริษัทขาดทุน 2.02 พันล้านบาท
ไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทขาดทุน 875 ล้านบาท
ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเหลือเพียง 1.57 พันล้านบาท
และถ้าบริษัทยังขาดทุนต่อเนื่อง อาจจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบแล้วมีปัญหาขึ้นมาในภายหลัง โดยเฉพาะสิ่งที่นักลงทุนไม่ชอบมากที่สุดนั่นก็คือ "การเพิ่มทุน"
- นักลงทุนกำลังจะเห็น JAS ไปทำธุรกิจไฟฟ้า
- นักลงทุนกำลังจะเห็นการบินไทยกลับมา Turn Around
- TNR วางกลยุทธ์ขยายตลาดในจีนและอเมริกา
ทั้งนี้ JAS ยังรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนธุรกิจอีกด้วยว่า ...
... บริษัทได้ขาย 3BB และ JASIF ให้กับทาง AWN มูลค่า 3.24 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้
หลังจากนั้น บริษัทจะเดินหน้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด โดยเฉพาะ Solar Rooftop
... อีกทั้ง บริษัทยังร่วมมือกับ JTS ศึกษาในธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทาง JAS ประกาศว่าจะมีการประชุมในการแก้ไขผลการดำเนินการของบริษัท เนื่องจากส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
ซึ่งนักลงทุนกำลังจับตาดูอยู่ว่า ทาง JAS จะแก้ปัญหาอย่างไรต่อไป ...
แต่ตอนนี้ ราคาหุ้นที่ร่วงติดฟลอร์ได้สร้างความกลัวให้กับนักลงทุนไปแล้วเรียบร้อย
------------------------------------------------------------------------------
Reference
ผลประกอบการสำคัญ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย