สิ่งที่นักลงทุนรู้เกี่ยวกับหุ้นการบินไทย หรือ THAI ล่าสุด 
คือ ถูกหยุดการซื้อขาย (ขึ้นเครื่องหมาย SP) ไปตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2564 
แล้วนักลงทุนแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับข่าวคราวของการบินไทยเลย 
แต่ถ้าใครติดตามผลประกอบการจะพบว่า บริษัทเริ่มกลับมาขาดทุนน้อยลง

โดยในปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 1.05 แสนล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 272 ล้านบาท
ถือว่าลดลงอย่างมาก หลังจากที่เคยขาดทุนอย่างหนักหลัก "หมื่นล้านบาท" 
หรือหนักที่สุด คือในปี 2563 ที่ขาดทุนไปมากถึง 1.41 แสนล้านบาท

แต่ด้วยสถานการณ์ของผลประกอบการล่าสุด บ่งบอกได้ว่านักลงทุนกำลังจะเห็นการบินไทย กลับมา Turn Around ได้อีกครั้ง
โดย 1Q66 บริษัทมีรายได้รวม 4.15 หมื่นล้านบาท (เติบโต 271% YoY)
และมีกำไรสุทธิ 1.25 หมื่นล้านบาท จากที่ขาดทุนใน 1Q65 ที่ราวๆ 3.24 พันล้านบาท
ซึ่งรายได้และกำไรที่เกิดขึ้น มาจากฝีมือของการทำธุรกิจเองจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น
... จำนวนผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น
... ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น
... รายได้จากผู้โดยสารต่อคน เพิ่มขึ้น
... ปริมาณการขนส่งพัสดุ เพิ่มขึ้น
... จำนวนเครื่องบิน ลดลง รวมถึงอัตราการใช้ประโยชน์เครื่องบินก็มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ในรายงานคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ 
บริษัทชี้แจงว่า บริษัทมีการเพิ่มความถี่ในเที่ยวบินเส้นทางยอดนิยม รวมถึงการบินสู่จีน 
อีกทั้งในไตรมาส 1 บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ทั้งการหารายได้จากการขนส่งที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ การปรับประสิทธิภาพฝูงบิน 
และการหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ 
โดยในเดือนมี.ค.66 บริษัทได้จัดหาและปรับปรุงฝูงบินโดยนำอากาศยานแบบ B777-200ER 1 ลำที่อยู่ในฝูงบินปัจจุบัน กลับมาใช้ในการปฏิบัติการบินในเส้นทาง สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ จาการ์ตา กัลกัตตา นิวเดลี เจนไน ธากา และอิสลามาบัด เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เติบโตต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้บริหารจัดการอุปกรณ์บริการภาคพื้นให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินที่มีแนวโน้มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามปริมาณการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าที่เติบโต เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทสามารถต่อยอดธุรกิจสนับสนุนการบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• S-Curve ใหม่ของ GABLE อยู่ที่ตรงไหน ?
• เจาะสาเหตุ WARRIX แบรนด์สินค้ากีฬาที่ราคาหุ้นพุ่งกว่า 50%
• SJWD โลจิสติกส์ 3 หมื่นล้าน ที่กำลังจะเติบโต 100% 

คำถาม คือ ต่อจากนี้ การบินไทยจะเป็นอย่างไรในไตรมาส 2 ? 
คำตอบ น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น .. 
บริษัทชี้แจงว่าด้านทิศทางในไตรมาส 2/66 บริษัท บริหารจัดการและปรับปรุงฝูงบินโดยการนำอากาศยานแบบ A350-900 จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติการบิน ในเส้นทางเมลเบิร์น คุนหมิง ปักกิ่ง เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เติบโตต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้บริษัทเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เติบโตต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ให้กับบริษัท

ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบินของบริษัท เพื่อลดภาระการขาดทุนจากการดำเนินการและแก้การขาดทุนสะสมที่เกินทุนจดทะเบียนของบริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการและแผนการปฏิรูปธุรกิจเพื่อการดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างยั่งยืน โดยผลที่ได้รับจากการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบินของบริษัท ได้แก่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ฝูงบิน การขยายโอกาสการหารายได้จากเส้นทางและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากอัตราเฉลี่ยการใช้อากาศยานที่ดีขึ้น

รวมถึงการขยายโอกาสสร้างรายได้ในเส้นทางบินระหว่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนต่อหน่วยสูงและการแข่งขันไม่รุนแรงเท่าเส้นทางภายในประเทศ การบรรเทาปัญหาข้อจำกัดในการจัดหาอากาศยานในระยะสั้นซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของความต้องการเดินทาง ขณะที่การขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตเครื่องบินเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยังมีข้อจำกัด การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การลดค่าใช้จ่ายไม่ซ้ำซ้อน

ผลประกอบการของ THAI กำลังมีทิศทางไปในทางที่ดี ...
ถ้าบริษัทสามารถรักษามาตรฐานของการทำกำไรได้
เชื่อว่า นักลงทุนอาจจะเห็นการบินไทยกลับเข้ามาซื้อขายในตลาด เร็วๆนี้กันอีกครั้งหลังจากที่ถูกหยุดการซื้อขายไปนาน

------------------------------------------------------------------------------
Reference
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

THE STANDARD WEALTH

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย