ถ้าเราถามว่าหุ้น JAS ทำธุรกิจอะไร
เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะต้องมีภาพจำว่าเป็นเจ้าของธุรกิจอินเตอร์เน็ต โทรคมนาคม ในชื่อ 3BB
และเจ้าของกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน JASIF
แต่ถ้าถามว่า แล้วตอนนี้ JAS กำลังทำธุรกิจอะไร ?
เชื่อว่านักลงทุนน่าจะนึกไม่ออก ....
เพราะที่ผ่านมา ถ้าใครที่ติดตามข่าวของ JAS จะพบว่า JAS กำลังค่อยๆเฟสตัวเองออกจากธุรกิจเดิมโดยสิ้นเชิง
เริ่มจากธุรกิจโครงข่ายโทรคมนาคม ในชื่อ JASTEL ก็ขายออกไปให้กับบริษัทลูกอย่าง JTS
โดย JAS ถือหุ้นอยู่ 32.8%
ต่อมาก็จะขายธุรกิจ 3BB และกองทุน JASIF ให้กับ ADVANC
เท่ากับว่า JAS ไม่มีธุรกิจหลักโดยสิ้นเชิง แต่มีเงินสดอยู่ราวๆ 1.92 หมื่นล้านบาท
ซึ่งจะเอาไปทำอะไร ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนกำลังตั้งคำถามอยู่
- สำรวจผลงาน MAKRO ปี 65 รายได้เฉียด 4.7 แสนล้านบาท พุ่ง 76.1% รับเศรษฐกิจ และท่องเที่ยวฟื้นตัว
- ซื้อขายหุ้น DELTA ด้วยความระมัดระวัง
- ส่องผลประกอบการ BTG ออกมาดี แต่ยังไม่เพียงพอต่อความคาดหวัง
ล่าสุด ดูเหมือนว่า JAS จะเริ่มค้นพบแนวทางแล้วว่าจะกำเงินไปทำธุรกิจอะไรดี
นั่นก็คือ ธุรกิจไฟฟ้า
โดยรายงานที่ส่งให้กับตลาดหลักทรัพย์ชี้แจงอยู่ 2 ประเด็น คือ
1. บริษัทจะเปลี่ยนชื่อบริษัทลูกที่ถือหุ้นอยู่ 100% จากเดิม คือ บริษัท ที.เจ.พี. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
เปลี่ยนมาเป็น บริษัท จัสกรีน จำกัด
2. เปลี่ยนมาทำธุรกิจใหม่เป็น
ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน และพลังงานอื่นทุกประเภท เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, ความร้อน, พลังงานจล และก๊าซชีวมวล เป็นต้น รวมถึงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา และบนพื้นดิน หรือ ลอยน้ำ ระบบกักเก็บพลังงานวยแบตเตอรี่หรือเทคโนโลยีอื่นใด ระบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็ก และระบบอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน
พูดง่ายๆคือ ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งกำลังเป็นธีมเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจอย่างมาก ...
ถือเป็นก้าวใหม่ของ JAS ที่น่าสนใจ แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่สูง เพราะเราต้องไม่ลืมว่า
JAS ไม่มีธุรกิจหลักอีกต่อไปแล้ว และนักลงทุนก็รู้ว่า JAS ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆให้เข้าไปลงทุน ราคาหุ้นก็จะไหลลงอย่างต่อเนื่องเว้นแต่ว่าธุรกิจใหม่ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะสร้างการเติบโตอย่างมากให้กับ JAS
แต่เอาเข้าจริงๆ ธุรกิจโรงไฟฟ้า เป็นธุรกิจที่ไม่ได้ทำกันง่ายๆเพราะมีหลายบริษัทที่เคยทำก่อนหน้า แล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จกลับมาก็มีให้เห็นเยอะแยะ
ดังนั้น ก้าวใหม่ของ JAS เต็มไปด้วยความท้าทาย และโอกาส
แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องแบกรับในความคาดหวัง ด้วยเหมือนกันครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
การเปลี่ยนแปลงชื่อและการเพิ่มวัตถุประสงค์ของบริษัทย่อย : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย