การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวเป็นสัญญาณที่ดีของหลายธุรกิจ รวมถึง MAKRO ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดที่เติบโตไปพร้อมของธุรกิจ Horeca ในประเทศไทย กลุ่ม Horeca (โรงแรม (Hotel), ร้านอาหาร (Restaurant) และจัดเลี้ยง (Catering)) ทำให้ มีผลการดำเนินงานปี 2565 ที่เติบโตโดดเด่น ด้วยตัวเลขรายได้กว่า 469,131 ล้านบาท หรือเติบโต 76.1% และกำไรสุทธิ 7,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับนักลงทุนที่ติดตามหุ้น MAKRO อาจเห็นแล้วว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติเปลี่ยนชื่อ บริษัท จาก บมจ. สยามแม็คโคร เป็น ‘บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า’ และเปลี่ยนตัวย่อในการซื้อขายหุ้นเป็น ‘CPAXT’ เพื่อให้สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจใหม่ที่มีทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก หลังรับโอนกิจการค้าปลีกของ Lotus’s เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลก ที่ไม่มีข้อจำกัดในการไปเปิดดำเนินธุรกิจได้ทุกประเทศ 

มาดูกันว่า นอกจากชื่อบริษัทใหม่ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว มีประเด็นสำคัญอะไรบ้างเกี่ยวกับธุรกิจของ MAKRO ในปีที่ผ่านมา และคาดว่า บริษัทเตรียมขยายธุรกิจหลังจากนี้อย่างไร?

1. เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ แต่ใช้แบรนด์เดิม

การเปลี่ยนชื่อบริษัทอาจทำให้หลายคนเข้าใจว่า หลังจากนี้ จะไม่มีห้างค้าส่งภายใต้ชื่อ MAKRO ในประเทศไทยแล้ว ซึ่งไม่เป็นจริง เพราะแบรนด์ในการดำเนินธุรกิจ ยังคงใช้ “MAKRO” เช่นเดิม และใช้ชื่อ Lotus’s เป็นแบรนด์ธุรกิจค้าปลีกต่อไป ซึ่งต่างเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่ลูกค้าคุ้นเคย

โดยขั้นตอนต่อจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อขอมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท ตราประทับ และชื่อหลักทรัพย์ รวมถึงอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2565 ในอัตรา 0.51 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น คงเหลือที่จะต้องจ่ายเงินปันผลอีกในอัตรา 0.33 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 28 เม.ย. และกำหนดจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในวันที่ 17 พ.ค. นี้

2. รายได้รวมปี 65 เพิ่มขึ้น 76.1%

ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 469,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 266,367 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 7,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 6,973 ล้านบาท (ไม่รวมรายการกำไรทางบัญชีจากการรวมธุรกิจแบบขั้นที่เกิดจากการรวมธุรกิจค้าปลีกเข้ามาเมื่อตุลาคม 2564) 

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเพิ่มขึ้นเป็น 14.2% จากธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกที่เติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การขยายสาขาใหม่และปรับรูปแบบสาขา รวมถึงการเติบโตของธุรกิจ Food Service ที่มีฐานลูกค้าเป็นกลุ่ม Horeca

3. เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวฟื้นหนุนกำลังซื้อกลุ่ม Horeca

หนึ่งในปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของ MAKRO คือ ลูกค้ากลุ่ม Horeca ที่ขยายตัวตามธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์ว่า ปีนี้รายได้จากการท่องเที่ยวไทยจะเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านล้านบาท จากอานิสงส์จีนเปิดประเทศ รวมถึงพฤติกรรมและรูปแบบการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงจากเดิม โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายต่อทริปสูงจะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น

ทำให้แนวโน้มการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแผนงานขยายสาขาและกลยุทธ์ O2O รวมถึงปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการช้อปดีมีคืนที่ส่งผลดีต่อการจับจ่ายใช้สอยที่คึกคักตั้งแต่ต้นปี

4. เดินหน้าขยายสาขา และเพิ่ม New Format

บริษัทมีแผนทรานฟอร์มเป็น Techlead Company ทั้ง ค้าส่ง และค้าปลีก  และจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง MAKRO ยังคงเน้นธุรกิจในรูปแบบ Food Service โดยมีแผนขยายสาขาในประเทศ 12 แห่ง และสาขาต่างประเทศอีก 6 แห่ง ขณะที่ Lotus’s มีแผนขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศ ด้วยศูนย์จำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ 5 สาขา และ สาขาขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 150 สาขา

นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายในส่วนของธุรกิจค้าปลีก บริษัทได้มีการเปิดตัวโครงการ Lotus's North Ratchapruek ในปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสาขาต้นแบบของ SMART Community Center ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงเปิดตัว Premium Hypermarket ภายใต้แบรนด์ใหม่อย่าง Lotus’s Privé (โลตัส พรีเว่) ที่เน้นจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงและนำเข้าจากทั่วโลก

5. ใช้กลยุทธ์ O2O ขับเคลื่อนธุรกิจ รับยุคดิจิทัล

จากเป้าหมายที่จะก้าวสู่การเป็น เบอร์ 1 ในธุรกิจค้าส่งแบบ O2O และขยายฐานลูกค้า Omni Channel ท่ามกลางกระแสดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราทยอยเห็นกลยุทธ์ใหม่จากบริษัททั้งในกลุ่มธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก เพื่อเชื่อมต่อทุกช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างครบวงจรทั้งในรูปแบบ B2B, B2C และ E-Commerce

เป็นที่มาของการโปรโมตแอปพลิเคชั่นใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Makro PRO’ ด้วยสโลแกน ‘สั่ง ขาย คุ้ม อย่างโปรในแอปฯ เดียว’ ที่มีการซื้อขายและสิทธิประโยชน์ พร้อมการเป็นพื้นที่ให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยได้เข้ามามีส่วนร่วม โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็น 88% ตามเทรนด์ของพฤติกรรมผู้บริโภคหลังยุค COVID-19

ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศกำลังฟื้นตัวต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ ‘MAKRO’ ยังเป็นองค์กรหนึ่งที่ยึดถือเรื่อง “คน” เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งเป็นทิศทางของบริษัทระดับโลกที่มี คน หรือ People เป็นจุดแข็ง และเป็นหัวใจของการทำธุรกิจในการช่วยเป็นพลังขับเคลื่อนการทรานฟอร์ม และเป็น Ambassador ของแบรนด์ ดังนั้น MAKRO จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตในอนาคต …

โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.siammakro.co.th 

References

- https://www.thebusinessplus.com/makro-food-expo-horeca-redefined/ 

- https://www.ttbbank.com/th/newsroom/detail/travel-thailand-2566 

- https://www.settrade.com/th/research/analyst-research/22261 

- https://www.settrade.com/th/research/iaa-consensus/236799 

- https://www.settrade.com/th/research/analyst-research/17178 

- https://www.settrade.com/th/research/iaa-consensus/237305 

- https://www.bangkokbiznews.com/pr-news/news/1053350 

- https://www.ryt9.com/s/prg/3311349 

- https://bit.ly/3IMKFja