เห็นผลประกอบการของ BTG ออกมาน่าประทับใจ เพราะ
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 86.74 พันล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.01 พันล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 113.87 พันล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.93 พันล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ รายได้เติบโต 31%yoy และกำไรสุทธิเติบโต เกือบ 700% yoy เลยทีเดียว
... แต่พอไปดูราคาหุ้น กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งแต่เข้าตลาดมา ให้ผลตอบแทน -17% เข้าไปแล้ว
หรือถ้าใครซื้อตั้งแต่ต้นปี ก็ติดลบไปแล้วราวๆ 8% เลยทำให้เกิดความสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติในผลประกอบการของ BTG หรือไม่ ?
คำอธิบายสำหรับผลประกอบการปี 2565 พูดสั้นๆ คือ ออกมาดี แต่นักลงทุนคาดหวังมากกว่านี้
ไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 903 ล้านบาท
ไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.30 พันล้านบาท
ไตรมาส 4 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.79 พันล้านบาท
เติบโต 100% yoy แต่ลดลง -22% qoq
พูดง่ายๆคือ นักลงทุนคาดหวังว่าผลประกอบการไตรมาส 4 ควรจะดีกว่าไตรมาส 3
สาระสำคัญของผลประกอบการ BTG ปี 2565
1. กำไรไตรมาส 4 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3 ในปีเดียวกันประมาณ 22%
2. บริษัทมีรายจ่ายพิเศษ จำนวน 46 ล้านบาท หลักๆเป็นขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
3. อัตรากำไรขั้นต้นลดลง จากที่เคยทำได้ 21.2% เหลือเพียง 18.3% จากราคาหมุและไก่เฉลี่ยที่ลดลง ท่ามกลางต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับเพิ่มขึ้น กดดันประสิทธิภาพการทำกำไร
4. บริษัทควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี สังเกตจาก SG&A/Sale ลดลงมาอยู่ที่ 11.1% จากเดิม 11.4%
5. อัตรากำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 7% จากปี 2564 ที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.2%
เอาจริงๆ คือ ผลประกอบการของ BTG ไม่ได้แย่ และอยู่ในระดับสูงด้วยซ้ำ เพียงแต่นักลงทุนคาดหวัง "มากกว่านี้"
ประเด็นสำคัญอีกอย่างที่นักลงทุนยังกังวล คือ ผลประกอบการปี 2566 ที่จะมาถึง
ผลประกอบการออกมาดี แต่ราคาหุ้นยังลงต่อสะท้อนว่าดีน้อยกว่าที่คาดหวังเอาไว้
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ...
ปี 2566 กำไรสุทธิของ BTG จะลดลง 25.7%
ปี 2567 กำไรสุทธิของ BTG จะลดลง 26.5% จาก 3 ประเด็นด้วยกันคือ
1. อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลดลง มาอยู่ที่ระดับ 15.7% - 16.4%
2. ราคาหมูไก่ถูก
3. วัตถุดิบอาหารแพง
อย่างไรก็ตามแนวโน้มธุรกิจหลักของ BTG มีแนวโน้มที่ดีในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขยายกำลังการผลิตหมู ไก่ และอาหารสัตว์ , การเน้นขายสินค้าผ่านช่องทางที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น การเน้นสินค้าระดับบนมากขึ้น เช่น แบรนด์ S-Pure รวมถึงการขยายกำลังการผลิตในธุรกิจต่างประเทศ
- AWC กำลังอยู่ในจังหวะของการเติบโต
- ทำไม DUSIT เป็นหุ้นโรงแรมที่ยังขาดทุน 500 ล้าน ?
- CPF เป็นอีก 1 ปี ที่น่าผิดหวัง
โดยสรุปแล้ว สาเหตุที่ราคาหุ้น BTG ยังลดลงต่อเนื่อง น่าจะมาจาก 2 ประเด็นด้วยกันคือ
1. ผลประกอบการออกมาดี แต่นักลงทุนคาดหวังมากกว่านี้
2. ปี 2566 ผลประกอบการจะถูกกดดันจากราคาหมูและไก่ที่ลดลง ในขณะต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังทรงตัวในระดับสูง ทำให้ผลประกอบการของ BTG มีแนวโน้มลดลงในปี 2566 และลากยาวไปจนถึงปี 2567
อนึ่ง BTG ประกาศจ่ายปันผล 1 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้น XD วันที่ 14 มีนาคม และจ่ายปันผลวันที่ 19 พฤษภาคม คิดเป็น Yield ที่ 3.2%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย