AWC รายงานกำไรออกมาได้อย่าง "น่าประทับใจ" และแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดมองเอาไว้มาก โดย
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 4.30 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 861 พันล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 9.53 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 3.85 พันล้านบาท
ซึ่งคิดเป็นการเติบโตในแง่รายได้มากถึง 68.1% แบะของกำไรสุทธิมากกว่า 100% ถือว่าสูงมาก และฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด
หรือถ้านับเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.10 พันล้านบาท
ไตรมาส 4 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.43 พันล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 30%
ที่มา : บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์
สาระสำคัญจากผลประกอบการ AWC ในปี 2565 ที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง คือ
1. ไตรมาส 4 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.43 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งถ้าเราตัดรายการนี้ออกไป บริษัทจะมีกำไรปกติ 359 ล้านบาท
ฟื้นตัวจากขาดทุนประมาณ 445 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2564
2. ทั้งปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3.85 พันล้านบาท และตัดรายการพิเศษออกไป จะพบว่าบริษัทขาดทุนอยู่ราวๆ 85 ล้านบาท
ดีขึ้นจากปี 2564 ที่ขาดทุนหนักถึง 2.4 พันล้านบาท
จากเดิมที่ตลาดคาดว่าน่าจะขาดทุนระดับ 200 ล้านบาทในปี 2565
3. แหล่งรายได้หลัก แหล่งคือ
... ธุรกิจโรงแรม (สัดส่วน 74% ของรายได้) รายได้เติบโต 40% และ RevPar โต 39%qoq
... ธุรกิจอาคารสำนักงาน (สัดส่วน 17% ของรายได้) รายได้โต 8% ได้แรงหนุนจากอัตราค่าเช่าที่สูงขึ้น
... ธุรกิจพื้นที่เช่า (สัดส่วน 9% ของรายได้) รายได้โต 66% จากอัตราค่าเช่าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ Asiatique The Riverfront
4. บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 46% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด
แต่สูงกว่าปี 2564 ที่ทำได้ 17.1% เป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังฟื้นตัวอย่างชัดเจน
5. AWC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 0.89 เท่า ซึ่งถือว่ายังต่ำอยู่มาก
คำถาม คือ แล้วปี 2566 แนวโน้มผลประกอบการจะเป็นอย่างไรต่อไป ?
คำตอบ คือ เราจะเห็นผลประกอบการของ AWC เติบโตอย่างต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดว่า ในปี 2566 กำไรของ AWC จะเติบโตสูงถึง 62% และโตอีก 15% ในปี 2564
โดยกำไรจากการดำเนินธุรกิจจะแตะระดับ 1.4 พันล้านบาท
จากแรงหนุนในธุรกิจโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฟื้นตัวในเรื่องของการท่องเที่ยว อัตราการเข้าพักที่ปรับตัวดีขึ้น ค่าห้องที่เพิ่มราคาได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
และที่สำคัญ คือ พอร์ตโรงแรมของ AWC เพิ่มขึ้นมากถึง 5,458 ห้อง จากปี 2562 ที่มีอยู่ราวๆ 3,432 ห้อง
AWC วางแผนเปิดโรงแรมใหม่อีก 2 แห่ง คือ
Innside Bangkok Sukhumvit จำนวน 208 ห้อง และ
InterContinental Chiang Mai Mae Ping จำนวน 240 ห้อง
ถึงแม้ว่าโรงแรมที่เปิดใหม่จะยังไม่ได้ Perform รายได้รวมของ AWC มากนัก แต่ถือเป็นการเติบโตในอนาคตที่น่าจับตาอย่างมาก
... ดังนั้น เราจะเห็นผลประกอบการของ AWC ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2566 เป็นต้นไป ...
- SC เปิดแผนโรดแมป Thriving Beyond มุ่งสร้างคุณค่าสู่คนและโลก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
- OR กำลังตั้งเป้าเป็นผู้นำ EV Ecosystem
- CRC กับกลยุทธ์ Retailligence กำลังทำให้บริษัทเติบโตสูงถึง 37%
โดยสรุปแล้ว ถ้าจะให้นิยาม AWC น่าจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนด้วยกันคือ
1. การกลับมอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งในแง่ผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง ขนาดของพอร์ตโฟลิโอในสินทรัพย์ที่ใหญ่กว่าเดิม ความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ และการพัฒนาโครงการที่มีฐานทุนแข็งแกร่ง ต้นทุนต่ำถึงแม้จะปรับตัวตามสภาวะเงินเฟ้อแล้วก็ตาม
2. มีความสามารถในเติบโตได้เร็วกว่าเดิม
ด้วยทรัพย์สินขององค์กรที่มีคุณภาพ และกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า
เป้ าหมาย รวมทั้งความสามารถและความยืดหยุ่นในการผ่านวัฏจักรธุรกิจและวิกฤตการณ์
ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี บริษัทสามารถดึงดูดลูกค้ากลับมาใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว
3. กระแสเงินสดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ด้วยการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ผลการดำเนินงานที่ดี รวมถึงการพัฒนากระบวนการทางานในองค์กรเพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ปัจจุบัน AWC เป็นเจ้าของห้องพักในธุรกิจโรงแรมมากกว่า 5,458 ห้อง
เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีห้องอยู่ 3,432 ห้อง เพิ่มขึ้นมากถึง 76% ในกลุ่มระดับ High-to-Luxury ที่ตั้งงโรงแรมอยู่ในทำเลศักยภาพ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สาคัญ จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการและดึงดูดนักท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าพักเพิ่มขึ้น
อนึ่ง AWC ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.032 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 9 พฤษภาคม และจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม
คิดเป็น Yield ที่ 0.54%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย