โดยส่วนใหญ่หุ้นน้องใหม่ IPO ที่เข้าตลาดมักจะร้อนแรงและเป็นกระแสการเก็งกำไรในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
หลังจากนั้น ราคาหุ้นก็จะค่อยๆลดลงเนื่องมาจากกระแสที่หายไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าหุ้นที่มี IPO แพงเกินไป ราคาหุ้นจะต่ำจองสร้างความเจ็บปวดให้กับนักลงทุนอย่างมา
แต่คงจะไม่ใช่กับหุ้น MOSHI หรือ บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หุ้น MOSHI เข้ามาเทรดวันแรก คือ วันที่ 22 ธันวาคม ปี 2565 ที่ราคา IPO 21 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ 51 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนสูงกว่า 57% ในรอบ 3 เดือน
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
สาเหตุเป็นเพราะว่า ผลประกอบการของ MOSHI ที่เติบโตขึ้นอย่างมาก
ในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 1.25 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 131.27 ล้านบาท
ในปี 2565 บริษัทมีรายได้ 1.86 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 253.17 ล้านบาท
คิดเป็นการเติบโตในแง่รายได้ 50% และกำไรสุทธิเติบโตสูงถึง 93%
บริษัทวิเคราะห์ว่า การเติบโตของ MOSHI มาจาก 4 ภาคส่วนด้วยกัน คือ
1. การเพิ่มความหลากหลายของสินค้าใหม่
2. การเพิ่มยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG)
3. การเปิดสาขาเพิ่มเติม การเปิดสาขา Standalone และพัฒนาแฟรนไชส์
4. การทำมาร์เก็ตติ่ง กิจกรรมส่งเสริมการขาย
ผู้บริหารของ MOSHI ยังแสดงความคิดเห็นอีกด้วยว่า ...
ในปี 2566 จะผลักดันการเติบโตต่อเนื่องสอดรับกับแนวโน้มการเติบโตในอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ในปัจจุบันกำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีนที่โหยหาการเดินทาง ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวเร็ว แรง และเติบโตสูง และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับสถานการณ์จับจ่ายในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดของธุรกิจค้าปลีก มีการจับจ่ายคึกคักที่สุดของปี เพราะคนไทยนิยมจัดปาร์ตี้สังสรรค์จับฉลากแลกของกัน การซื้อไปแจกและการซื้อสินค้ามอบให้แก่กัน ทำให้สินค้าร้านโมชิ โมชิ มักเป็นตัวเลือกของลูกค้าในเทศกาลปีใหม่ เทศกาลวันเด็ก และเทศกาลแห่งความรัก เรียกได้ว่าสินค้า Moshi Moshi เป็นสินค้าที่ผู้รับได้รับแล้วจะมีความสุขอย่างแน่นอน
- เราอาจจะเห็น TRUE กำไรเป็นปีแรกตั้งแต่ควบรวม
- AWC กำลังอยู่ในจังหวะของการเติบโต
- ส่องผลประกอบการ BTG ออกมาดี แต่ยังไม่เพียงพอต่อความคาดหวัง
ถามว่า แล้วก้าวต่อไปของ MOSHI ที่จะช่วยรักษาการเติบโตให้สูงระดับนี้ ได้อีกต่อไปอย่างไร ?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่า แผนการเติบโตของ MOSHI มีความชัดเจน โดย ในช่วง 3 ปีนับจากนี้ จะมีแผนงาน คือ
1. ในปี 2566 ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 20% โดย
... จากการขยายสาขาเพิ่มอีก 20 สาขา หนุน SSSG เติบโต Double Digit
... เน้นสัดส่วนสินค้าจากต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าสินค้าในประเทศ สัดส่วน 55%
2. ในปี 2567 ขยายสาขาเพิ่มอีก 20 สาขา ทั้งในรูปแบบบริษัทเป็นเจ้าของ และการขายแฟรนไชส์
3. ในปี 2568 จะขยายสาขาเพิ่มอีก 20 สาขา และขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มจาก CLMV อาจจะเป็นการขายผ่านแฟรนไชส์ หรือ Joint Venture กับบริษัทอื่น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่า กำไรของ MOSHI ในปี 2566 จะแตะระดับ 380 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 50% yoy จาก 5 ประเด็นด้วยกันคือ
1. อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 53.%
2. การฟื้นตัวของการบริษัทในประเทศ
3. การท่องเที่ยวฟื้น ต่างชาติมาไทยมากขึ้น
3. การขยายสาขา
4. คนเข้าห้างมากขึ้น และกลับมาใกล้เคียงกับช่วง Pre-COVID
ถือว่าในแง่ของผลประกอบการ และการเติบโตของบริษัทแล้ว มองไปในแง่บวกอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะตัดสินว่านักลงทุนจะกำไรจากการลงทุนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ "ราคาหุ้นที่ซื้อ"
บทวิเคราะห์ มองว่า ผลประกอบการมีแนวโน้มดีก็จริง แต่ถูกสะท้อนลงไปในราคาหุ้นหมดแล้ว และอาจจะสะท้อนการเติบโตยาวไปอีก 3 ปีข้างหน้าแบบเต็มมูลค่า (Fully Value) แล้ว จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนประเมินโอกาสและความเสี่ยงก่อนการลงทุนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อนึ่ง MOSHI มีการประกาศจ่ายเงินปันผล และหุ้นปันผล
จ่ายหุ้นปันผลในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิม ได้ 1 หุ้นใหม่ และประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอีก 0.1 บาท ต่อหุ้น โดยจะขึ้น XD วันที่ 2 พฤษภาคม และจ่ายปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า