ถึงแม้ว่า TRUE จะมีประเด็นบวกในเรื่องของการรวมกิจการกับ DTAC
แต่ก็ต้องยอมรับว่าราคาหุ้นไม่ Outperform ตลาดเท่าที่ควร โดยเทียบกับ DTAC พบว่า ..
ใน 1 เดือนมานี้ หุ้น DTAC สร้างผลตอบแทนได้ถึง +9.4%
ในขณะที่หุ้น TRUE สร้างผลตอบแทนได้เพียง +2.5% เท่านั้น
คำถาม คือ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ... ?
สาเหตุเป็นเพราะว่า นักลงทุนจะยังเห็นการขาดทุนของ TRUE ในไตรมาสที่ 4 ปี 2565
และอาจจะลากยาวไปจนถีงปี 2566 ก็เป็นไปได้ ถึงแม้จะรวมเป็นบริษัทใหม่แล้วก็ตาม ... !!
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เมย์แบงก์ วิเคราะห์ว่าเราจะเห็น TRUE ขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4 ราวๆ 3.1 พันล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ในปีเดียวกันที่ขาดทุน 2.6 พันล้านบาท
และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ขาดทุน 1.3 พันล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ แย่กว่าเดิมค่อนข้างมาก
จากสาเหตุสำคัญ 3 ประการคือ
1. รายได้จากการให้บริการลดลง
2. ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โยเฉพาะ SG&A ที่เพิ่มขึ้นราวๆ 4.2% และ D&A ราวๆ 7%
3. มีค่าใช้จ่ายพิเศษประมาณ 300 ล้านบาท เกี่ยวกับการถ่ายทอดฟุตบอลโลก
- สรุป TRUE - DTAC ในสิ่งที่นักลงทุนต้องรู้
- เกิดอะไรขึ้นกับ SCC ผลประกอบการลดลงทุกธุรกิจ
- เมื่อ SET ขึ้น ...แต่หุ้นเราไม่ขึ้น
สำหรับในปี 2566 ทั้งปี บทวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนก็ยังอาจจะเห็นการขาดทุนสุทธิต่อไปอีกราวๆ 403 ล้านบาท ซึ่งถือว่าผลประกอบการดูดีและแข็งแกร่งกว่าบริษัทเดิมอย่างมาก โดยปัจจัยที่จะขับเคลื่อนกำไรหลักมาจากสาเหตุสำคัญ 5 ประการด้วยกันคือ
1. รายได้ที่เติบโตขึ้นราวๆ 3.2%
2. ค่าใช้จ่ายลดลง โดยเฉพาะเรื่องของการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เครือข่าย 7.59 หมื่นล้านบาท
3. ค่าที่ปรึกษาลดลง 822 ล้านบาท
4. ค่าใช้จ่ายทางการตลาดลง 355 ล้านบาท
5. ค่าเช่าจ่ายให้กับโครงข่าย 850 MHz ลดลง 286 ล้านบาท
โดยสรุปแล้ว สาเหตุที่หุ้น TRUE ค่อนข้าง Underperform ตลาด (อย่างน้อยก็เทียบกับ DTAC) สาเหตุเพราะว่านักลงทุนยังเจอกับการขาดทุนในไตรมาส 4 ปี 2565 ที่มาก และอาจจะลากยาวไปจนถึงปี 2566 ที่ยังต้องเจอกับการขาดทุนอีกถึงแม้จะเป็นบริษัทใหม่ที่รวมกับ DTAC แล้วก็ตาม
แต่โดยรวม ถือว่าผลประกอบการดีขึ้น และมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ถือว่าเป็นภาพบวกในระยะยาวครับ ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เมย์แบงก์