เป็นที่ชัดเจนแล้วระหว่างดีลควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC สรุปได้ว่า ... 
1. มีการจัดตั้งบริษัทใหม่ ในชื่อ "บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น" ด้วยทุนจนทะเบียน 1.38 แสนล้านบาท พาร์ที่ 4 บาท

2.  ปิดสมุดทะเบียนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นในการจัดสรรหุ้นบริษัทใหม่ 
โดย
1 หุ้น TRUE จะได้ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่
1 หุ้น DTAC จะได้ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่
พูดง่ายๆคือ ถ้าใครอยากได้หุ้นบริษัทใหม่ ต้องถือหุ้นจนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ครับ

3. หุ้น TRUE และ DTAC จะหยุดพักการซื้อขายหุ้น 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 - 2 มีนาคม 2566

ประเด็นคือ นักลงทุนจะปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร ระหว่างหุ้นทั้ง 2 ตัว
เราสามารถแบ่งออกเป็นได้ 2 กรณี

กรณีแรก คือ คนทีมีหุ้น ... 
ถ้าอยากจะแลกหุ้นบริษัทใหม่ ต้องถือหุ้นต่อไปจนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
หรือถ้าไม่อยากแลก จะต้องขายหุ้นออกไปในตลาดก่อนจะเกิดการควบรวม เพราะบริษัทเดิมจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์

กรณีที่สอง คือ คนที่ไม่มีหุ้น ...
นักลงทุนสามารถซื้อหุ้น TRUE หรือ DTAC เพื่อใช้สิทธิ์ในการแลกหุ้นได้
คำถามคือ ระหว่าง TRUE และ DTAC การใช้สิทธิ์ในการแลก อะไรคุ้มกว่า ? 
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า DTAC มีความคุ้มค่ากว่า สาเหตุเป็นเพราะว่า

อัตราการแลกหุ้น คือ 
1 หุ้น TRUE จะได้ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่ เท่ากับว่า เราต้องมีหุ้น TRUE 1.67 หุ้น เพื่อใช้แลกหุ้นใหม่ 1 หุ้น
1 หุ้น DTAC จะได้ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่ เท่ากับว่า เราต้องมีหุ้น DTAC 0.16 หุ้น เพื่อใช้แลกหุ้นใหม่ 1 หุ้น
ซึ่งราคาตลาด ณ ปัจจุบันของหุ้น TRUE อยู่ที่ 4.84 บาท และ DTAC อยู่ที่ 46.25 บาท

เท่ากับว่าต้นทุนในการแปลง โดยใช้หุ้น TRUE จะต้องใช้เงินประมาณ 8.06 บาท
และหุ้น DTAC จะต้องใช้เงินประมาณ 7.54 บาท 
ดังนั้น การซื้อหุ้น DTAC เพื่อใช้แลกจะมีความคุ้มค่ากว่าครับ  ....
-------------------------------------------------------
Reference

ข้อมูลหลักทรัพย์ TRUE : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลหลักทรัพย์ DTAC : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส